เมืองไทย 360 องศา
มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาอย่างยิ่ง กับการบุกเข้าจับกุมผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา หรือ “หวยแพง” และมีพฤติกรรมผิดกฎหมาย โดยการบุกเข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ค้าสลากฯรายใหญ่อย่างต่อเนื่อง และยังมีเป้าหมายที่ต้องตรวจค้นจับกุมอีกนับสิบบริษัท
แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงเรื่องสลากกินแบ่ง หรือ “หวย” ไม่ว่าจะ “หวยรัฐบาล” หรือ “หวยใต้ดิน” ย่อมได้รับความสนใจจากชาวบ้าน เพราะมันแทรกเข้าไปถึงแทบจะทุกคน หลายคนจดจ่อกับวันหวยออกจนแทบไม่ทำอะไร เรียกว่าเป็น “ช่วงหยุดโลก” เลยก็ว่าได้ บางตลาดเดินเข้าไปในช่วงเวลาแบบนั้นถือว่า “เงียบกริบ” ทุกคนรอลุ้นกันหน้าจอ หรือฟังเสียงวิทยุจากการออกเลขสลากรางวัล ซึ่งนี่คือวิถีชาวบ้านจำนวนมาก
แต่ขณะเดียวกัน สำหรับ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ที่ควบคู่กันมาช้านาน ก็คือ “ขายเกินราคา” และมี “ขาใหญ่” ได้ประโยชน์จากธุรกิจประเภทนี้ ที่พัวพันไปถึง นักการเมือง ผู้มีอิทธิพล และแน่นอนข้าราชการ รวมไปถึง “คนมีสี” ที่เรียกว่า “แทบจะทุกสี” นั่นแหละ ซึ่งก็มีเสียงโวยวายเรื่อง “หวย (สลากฯ) แพง” มานาน แต่ก็ไม่เคยแก้ไขได้ หรืออาจเป็นเพราะ “ไม่จริงจัง” ก็เป็นได้ เพราะมันเกี่ยวพันกับ “ผลประโยชน์” มีจำนวนเงินมหาศาลในแต่ละงวด
สำหรับในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้แตกต่างกัน มีเรื่อง “หวยแพง” เช่นเดิม และอาจแพงกว่าเดิม เพราะหากเป็นเลขเด็ดราคาอาจพุ่งไปถึงใบละ 120 บาท หรือมากกว่านั้นก็มี หากเป็นลักษณะ “รวมชุด” และแม้ว่าที่ผ่านมาตั้งแต่ในยุค คสช.ที่เคยมีความพยายามแก้ปัญหาด้วยการแต่งตั้ง “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เข้ามาเป็นประธานบอร์ดกองสลากฯ อยู่พักหนึ่ง พร้อมๆ กับความพยายามทำลายระบบโควตาที่ผูกขาดแบบ “เสือนอนกิน” มาช้านาน จนกระทั่งพ้นจากตำแหน่งไป ปัญหาก็กลับมาเหมือนเดิม หรือรุนแรงกว่าเดิม และรัฐบาลก็ได้รับเสียงโจมตีเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเข้ามาแก้ปัญหา โดยมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานฯ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานอนุกรรมการเป็นประธานอนุคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา
ที่น่าสนใจก็คือ คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาร่วมล้วนเป็นข้าราชการระดับปลัดกระทรวง มีทั้งฝ่ายอัยการ ตำรวจระดับสูง ผู้อำนวยการสำนักงานกองสลากฯเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เรียกว่า มีขอบเขตอำนาจแบบ “ครบวงจร” และที่ผ่านมา นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการได้ประกาศด้วยความมั่นใจว่า อีกไม่นานจะไม่มีการขายสลากฯเกินราคาอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาการขับเคลื่อน เมื่อพิจารณาจากตัวบุคคลที่มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแก้ปัญหาฯมีการแต่งตั้ง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นประธานที่เรียกว่า “หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ” มีฝ่ายตำรวจเข้ามาร่วม เช่น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นรองประธานหรือรองหัวหน้าชุด เป็นต้น ซึ่งเมื่อเห็นรายชื่อแบบนี้มันก็น่าสนใจและน่าจับตาอยู่แล้ว
เป้าหมายแรกก็คือ การนำหมายศาลเข้าตรวจค้น บริษัท มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่ จำกัด ที่มีสำนักงานใหญ่ที่ จ.นนทบุรี โดยมีนายเสกสกล และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ดำเนินการ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ โดย นายเสกสกล เปิดเผย กรณี บริษัทฯ ไม่ได้รับการจัดสรรโควต้าแล้วมีการกว้านซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้ได้รับโควตา ผู้ค้ารายย่อย และบุคคลทั่วไป มากกว่า 2 ล้านฉบับ แล้วนำเข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มมังกรฟ้า เ สนอขายหรือแทรกแซงกลไกราคาจนทำให้ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมูลค่าสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด พบเงินหมุนเวียนนับ 100 ล้านบาท ว่า ตนได้ประสานงานกับ ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองประธานฯไว้แล้วว่า โดยจะดูในข้อกฎหมายที่เข้าข่ายในการกระทำผิดทั้งหมด เช่น กรณีของการเปิดเว็บไซต์ขายเกินราคา หรือการเข้าไปปิดเซิร์ฟเวอร์ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อไม่ให้ขายได้ รวมถึงไปตรวจสอบในระบบ พบว่าจากการทำเบลอบาร์โค้ด มีเจตนาจะขายสลากเวียนหรือไม่ ซึ่งจะเข้าข่ายลักษณะเป็นการพนันออนไลน์หรือไม่ ถ้าเข้าข่าย ก็ต้องตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน โดยกฎหมายฟอกเงินและกฎหมายของปปง.ธุรกรรมทางการเงินมีใครเกี่ยวข้องบ้างก็จะได้ติดตามเอาผิดตามกฎหมายและตรวจสอบว่าเป็นสลากรับมาจากใคร เพราะมีรหัสตรวจสอบได้เลย ซึ่งสำนักงานสลากฯจะไปยกเลิกสิทธิทันที
นายเสกสกล กล่าวว่า รวมถึงดูข้อกฎหมายพรบ.คุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายภาษี กฎหมายประมวลรัษฎากร ซึ่งเขาบอกว่าได้กำไรปีละล้านแต่เราเห็นจากยอดที่หมุนเวียนคิดเป็นเงินงวดหนึ่งๆ หลายสิบล้านบาท 2 งวดก็ร่วมร้อยล้านบาท และสุดท้ายเงินตรงนี้เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ต้องดูให้หมดทุกเรื่อง ซึ่งทั้งหมดต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน และแน่นอนว่าต้องตรวจสอบไปถึงนายทุน ขยายผลเกี่ยวข้องกับนายทุนคนไหน เพราะทราบว่าเขาสนับสนุนพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และ ส.ส.คนหนึ่ง เรามีหลักฐานแล้ว แต่เราก็ให้ความเป็นธรรมตามข้อเท็จจริงด้วย อะไรผิดว่าตามผิดตามกฎหมาย อะไรถูกก็ว่าถูกยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เมื่อถามว่า ทางบริษัทระบุเรื่องของการขายเกินราคามีมานานแล้ว ไม่ใช่มีขายเกินราคาเพราะบริษัท นายเสกสกล กล่าวว่า ก็ถูกต้อง แต่ก่อนหน้านี้ ในวันนั้นตนยังไม่มีอำนาจหน้าที่ ก่อนหน้านั้นยังไม่ได้มีคณะกรรมการแก้ไขฯมาดำเนินการเรื่องนี้ เมื่อนายกฯแต่งตั้งขึ้นมา นายกฯสั่งให้ดำเนินการ แก้ปัญหาการขายเกินราคา เราก็ต้องทำตามหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายตามคำสั่งอย่างจริงจัง และการเปิดลักษณะเช่นมังกรฟ้านี้มีเป็นร้อยรายก็จะตามตรวจให้มากที่สุด อย่าว่าแต่ในเว็บไซต์เลย ของอาเจ้ อาเฮียไหนนั้นรู้หมด
นายเสกสกล ยังกล่าวว่า สำหรับการเข้าไปดำเนินการกับบริษัท มังกรฟ้าได้มีการรายงานนายกฯแล้ว ซึ่งนายกฯให้ดำเนินการเต็มที่ตามกฎหมาย และตนได้พูดคุยกับ ผบ.ตร.แล้วดำเนินการตามกฎหมายข้อเท็จจริง ไม่มีการกลั่นแกล้ง ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะเจอตอใหญ่แค่ไหน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีการขายเกินราคาอีกต่อไป
น่าสนใจตรงคำพูดช่วงหนึ่งของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ย้ำว่า “เขา (บริษัทนี้) สนับสนุนพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และ ส.ส.คนหนึ่ง เรามีหลักฐานแล้ว ส่วนจะเป็นคนเดียวกับคนที่ยังเคลื่อนไหวเป็น “หอกข้างแคร่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหรือไม่ เขาไม่ได้ขยายความให้ชัดเจน เพียงแต่รับรู้ข้อมูลมาว่า ส.ส.คนดังกล่าวมีธุรกิจการขายสลากฯรายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาทอย่างแน่นอน และล่าสุดก็มีการตรวจค้นบริษัท ลอตเตอรรี่ ออนไลน์ จำกัด ผู้จัดทำเว็บไซต์กองสลาก.com และ กองสลากพลัส เว็บไซต์ขายลอตเตอรี่ออนไลน์ ในซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ซึ่งมีลักษณะดำเนินการคล้ายกับบรษัท มังกรฟ้า ที่ถูกตรวจค้นก่อนหน้านี้ ในเบื้องต้นพบความผิดชัดเจน
ดังนั้น หากพิจารณาในมุมการเมืองจากกรณีนี้ถือว่าได้ “สองเด้ง” นั่นคือ หากดำเนินการได้สำเร็จ ซึ่งจากการประชุมของคณะกรรมการชุดดังกล่าวที่มีการแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง มีการเปลี่ยนแปลงผู้ขายใหม่ มีการเปิดรับสมัครผู้ค้ารายใหม่ พร้อมกับเตรียมขายสลากทางออนไลน์ มีการตรวจสอบตัวตนผู้ซื้อผู้ขาย เป็นต้น ซึ่งน่าจับตาว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ หากสำเร็จก็จะถือเป็นหน้าเป็นตาของรัฐบาล เพราะเรื่อง “หวย” เรื่อง สลากกินแบ่งฯเป็นเรื่องที่เข้าถึงชาวบ้านแทบทุกคน เป็นการสร้างผลงานให้จดจำได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงปลายเทอมและเป็นช่วงที่รัฐบาลกำลังเจอมรสุมเข้ามาทุกทิศทาง มันก็เหมือนการ “กระชากเรตติ้ง” กลับมาได้บ้าง
ขณะเดียวกัน “เด้งที่สอง” ก็คือ เป็นการ “ทุบหม้อข้าว” ของ “หอกข้างแคร่” ที่สร้างความรำคาญให้กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาพักใหญ่แล้ว ได้พร้อมกันไปด้วย ซึ่งเชื่อว่างานนี้ต้องไปให้สุด ไม่เช่นนั้นก็อาจจะหันกลับมาแว้งกัด มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน !!