xs
xsm
sm
md
lg

“เอกภพ” ค้านโอน รพ.สต.ให้ท้องถิ่น ยก 4 ข้อแย้ง กม.แนะต่อยอด 30 บาทรักษาทุกที่ ปูทางปฏิรูปใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.ส.เชียงราย ค้านโอน รพ.สต. ให้ท้องถิ่น ระบุ 4 ข้อเงื่อนปมขัดหรือแย้ง กม. โดยอาจจะไม่ใช่การกระจายอำนาจแต่จะเป็นการวางระบบสาธารณสุขของประเทศใหม่ แนะต่อยอด 30 บาทรักษาทุกที่ ดำเนินการต่อเนื่องวางระบบพัฒนา รพ.สต., โรงพยาบาล เพื่อปฏิรูปใหญ่

วันนี้ (25 มี.ค.) นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย ได้เขียนความเห็นผ่าน เฟซบุ๊ก “หมอเอก Ekkapob Pianpises” แสดงความไม่เห็นด้วยกับการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยระบุข้อความดังนี้

กรณีปัญหาการโอน รพ.สต. ยังมีเรื่องที่ต้องคิดต้องทำอีกมากเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน จากการประชุมรับฟังข้อมูลผ่านกรรมาธิการการสาธารณสุขแล้วพบว่าการถ่ายโอน รพ.สต. ที่มีการพูดถึงในขณะนี้ ยังไม่ได้มีการพิจารณากฏหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน และ ยังมีความเห็นกันไปหลากหลายทิศทาง แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ใน รพ.สต. เองยังมีความเข้าใจและความต้องการไม่ตรงกัน

โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ คือ .... ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาที่สุด!!!

ปัญหาในเชิงกฏหมายที่ยังไม่มีคำตอบที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน คือ 1. พ.ร.บ.การแพทย์ปฐมภูมิ มาตรา 15 กำหนดให้ต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ ในมาตรา 43 กำหนดไว้ว่าเป็นความรับผิดชอบของ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในการดำเนินการ หากมีการโอนย้ายไปแล้วทาง อบจ.จะมีการดำเนินการอย่างไร

2. การเบิกจ่ายค่ารักษาจาก สปสช. หรือบัตรทองอาจไม่มีปัญหา หากขึ้นทะเบียน รพ.สต. เป็นเหมือนคลินิกชุมชนอบอุ่น แต่จะมีปัญหาการเบิกของประกันสังคม และ เบิกจ่ายราชการ

3. กฎหมายวิชาชีพ ที่ รพ.สต. มีงานรักษาพยาบาลด้วยแต่ใช้ข้อยกเว้นที่ว่า เป็นการให้บริการภายใต้การดูแลของแพทย์ พยาบาล ดังนั้น หากโอนย้ายแล้วตัดงานรักษาออกจะส่งผลต่อการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่

4. การบริหารจัดการยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ที่ อบจ. ไม่ได้แสดงถึงความพร้อมในการบริหารจัดการและ มีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะจะแยกออกมาจากเงินเหมาจ่ายรายหัวอย่างไร

สรุป การถ่ายโอน รพ.สต. ให้ท้องถิ่นไม่ใช่การกระจายอำนาจแต่จะเป็นการวางระบบสาธารณสุขของประเทศใหม่ ดังนั้น จึงควรพิจารณามากกว่าแค่ถ่ายโอนหรือไม่ แต่จะพิจารณาเชิงระบบมากกว่านั้นเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

เพราะหากวางระบบไม่ดีเราจะประสบปัญหาเหมือนกับที่พบกับระบบสาธารณสุขของ กทม. ที่ถึงแม้จะมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง มีคลินิกชุมชนอบอุ่นมากมาย แต่มีปัญหาเรื่องการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชน

เราใช้โอกาสนี้ทำการปรับโฉมระบบสาธารณสุขไทยแบบ model change ได้ครับ

เพราะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ทำ “30 บาทรักษาทุกที่” ถือว่าเริ่มต้น แล้วเพราะเปลี่ยนจากระบบที่มี gate keeper แบบทาง สแกนดิเนเวีย, แคนาดา มาเป็น แบบไม่มี gate keeper แบบ ฝรั่งเศส ไปแล้วถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปแล้ว ก็น่าจะมีการดำเนินการต่อเนื่องและ ให้การวางระบบพัฒนา รพ.สต. ,โรงพยาบาล เป็นการปฏิรูปใหญ่ระบบสาธารณสุขไทยอีกครั้งครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น