นายเอกเมธ กมลวรานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางซื่อ พรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมเขตบางซื่อของ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคประชารัฐ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้สุงอายุ ยังคงขาดสวัสดิการและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตโดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนแออัด ดังนั้น ส่วนตัวเห็นว่า การพัฒนาชุมชนและพัฒนานาคนอย่างเป็นรูปธรรม จะต้องมีการปรับสภาพแวดล้อมของผู้สูงอายุในชุมชนให้เหมาะสมและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปีนี้ กล่าวคือจะมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปี หรือมากกว่า) จำนวน 12 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 20% ของประชากรทั้งหมด และจากการสำรวจพื้นที่เขตบางซื่อร่วมกับ ส.ส.อุ๋ม ธณิกานต์ เป็นเวลาสองปีกว่าพบว่า ประชากรส่วนมากในชุมชนแออัดเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ขาดรายได้ สภาพแวดล้อมทรุดโทรม จึงริเริ่มก่อตั้ง"โครงการปรับสภาพแวดล้อมของผู้สูงอายุในชุมชนให้เหมาะสมและปลอดภัย" ด้วยการประสานภาครัฐให้ผู้สูงอายุได้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการการดูแล
นายเอกเมธ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้นำชุมชนในเขตบางซื่อ ที่ร่วมด้วยช่วยกันในการดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุในชุมชนให้มีความเหมาะสมและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ ตนเองกับ ส.ส.ธณิกานต์ ได้ลงพื้นที่ พร้อมผู้แทนจากสำนักงานเขตบางซื่อ และกรมกิจการผู้สูงอายุ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ นางมยุรี ชมขลิบ ผู้สูงอายุป่วยติดเตียงภายในชุมชนตรอกตรงข้ามสะพานสูง เขตบางซื่อ โดยจะเข้าไปปรับปรุงและซ่อมแซมความเสียหายของที่พักอาศัย อีกทั้ง แก้ไขโครงสร้างที่เสื่อมสภาพให้มีความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนดำเนินการประเมินค่าใช้จ่ายจากการเข้าตรวจสภาพที่อยู่อาศัยจริง คาดการณ์แล้วเสร็จชุมชนนำร่องภายในเดือนเมษายนนี้