xs
xsm
sm
md
lg

“กรณ์” ตะลุย กทม.นำร่อง “กล้าปลดหนี้” ปัดให้กู้ แต่หาทางแก้หนี้มาอยู่ในระบบ ดอกเบี้ยเป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หัวหน้าพรรคกล้า ลงพื้นที่ กทม. เดินหน้านำร่อง “กล้าปลดหนี้” ย้ำพรรคไม่ได้ปล่อยกู้ แต่หาทางแก้หนี้นอกระบบ เข้ามาอยู่ในระบบ ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ย้ำส่งผู้สมัคร ส.ก. เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้

วันนี้ (21 มี.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงร่วมกิจกรรมเดินหน้าดำเนินโครงการ “กล้าปลดหนี้” เพื่อให้ความรู้และรับฟังปัญหาหนี้กับประชาชนโดยตรง พร้อมแนะแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่เขตพญาไท และเขตดุสิต

นายกรณ์ กล่าวว่า ที่มาของโครงการกล้าปลดหนี้ มาจากการลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับชาวบ้านในขณะนี้ คือ เรื่องปากท้องและเศรษฐกิจ เจอโควิดระบาดหลายรอบ เศรษฐกิจไม่ดี ทำมาค้าขายลำบาก ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตามมา คือ เรื่องของภาระหนี้สิน ชาวบ้านจำนวนมากโดยเฉพาะคนจนเมือง กู้ยืมจากสถาบันการเงินไม่ได้ ต้องไปกู้ยืมหนี้นอกระบบ ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยหนักมาก ไม่มีโอกาสได้คืนเงินต้น หาตอนเช้ามา ตกเย็นก็ต้องจ่ายให้กับเจ้าหนี้เกือบทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราเลยมองว่า เราไม่ได้มีอำนาจ ไม่มี ส.ส.ในสภา แต่ก็มองว่าเราน่าจะมีวิธีลดภาระหนี้สินให้กับประชาชนได้ ซึ่งก็เห็นว่ามีสถาบันการเงินในระบบธนาคาร ที่มีการปล่อยสินเชื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนบางส่วนได้ เพียงแต่ว่าชาวบ้านอาจจะยังเข้าไม่ถึง ไม่มีความรู้ หรือรู้สึกว่าไม่รู้จะเข้ายังไง เราก็เลยทำหน้าที่เป็นตัวประสาน ซึ่งช่วงทดลองเราก็มีการประสานกับสถาบันการเงิน นำเสนอความเดือนร้อนของชาวบ้านพร้อมสอบถามเงื่อนไขต่างๆ ว่า สามารถยืดหยุ่นได้หรือไม่ และวันนี้เราก็พร้อมที่จะขยายโอกาสไปในทางกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเดินหน้าโครงการนี้ไปเรื่อยๆ ในชุมชนที่พรรคกล้ามีตัวแทน

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ สัมผัสความเดือดร้อน เห็นหลายปัญหาที่มีเพียงแต่อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะแก้ได้ ซึ่งตนเองอยากที่จะรวบรวมมาฝากให้รัฐบาลนำไปแก้ไข เพราะมีความเชื่อว่าคนที่มาขอให้แก้ปัญหาเป็นคนทำมาหากิน ไม่ได้เป็นหนี้พนัน หรือไปซื้อยาเสพติด จึงเชื่อว่าทุกคนควรจะมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ หลายคนติดปัญหาเรื่องเครดิตบูโร จากการกู้ยืมเงินของรัฐตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว 20,000 บาท พอเจอปัญหาชีวิต ชำระหนี้ไม่ได้ จากนั้นก็เข้าสู่ระบบธนาคารไม่ได้เลย ต้องปากกัดตีนถีบดิ้นรนสู้ชีวิต คนทำมาหากินต้องมีต้นทุนซื้อของขาย ดูแลลูก ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เพราะฉะนั้นเลยอยากจะให้รัฐกำหนดมาตรฐานให้ชัดเจน ในการช่วยให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ใหม่ ซึ่งอยู่ในวิสัยที่รัฐจะทำได้ หากตนเองมีเครื่องมือรัฐและงบประมาณอยู่ในมือ เชื่อว่าปัญหานี้แก้ได้

“เราไม่ได้ปล่อยกู้เอง แต่ให้ความรู้ ชี้ช่องทาง ช่วยประสานงาน เป็นกำลังใจให้กับชาวบ้าน ในการแก้ปัญหาภาระหนี้สิน ใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ควบคู่ไปกับชาวบ้านด้วย เชื่อว่า ข้อมูล Data นี้ จะสามารถนำไปสู่นโยบายที่เหมาะสม ในการช่วยแก้ปัญหาภาระหนี้สินให้กับชาวบ้านได้ ซึ่งแต่ละครั้งที่จัดกิจกรรม จะมีประชาชนเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 40-50 คน บางครั้งเป็นหลักร้อย ทำให้เห็นว่าความเดือดร้อนอยู่ในวงกว้าง เป็นโครงการที่ชาวบ้านสนใจ ซึ่งเราก็จะเดินหน้าไปเรื่อยๆ แม้เราอาจจะช่วยไม่ได้ในทุกกรณี แต่ก็ยินดีที่จะช่วย เพื่อให้ชาวบ้านเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม” นายกรณ์ กล่าว

สำหรับการกิจกรรมโครงการกล้าปลดหนี้ในวันนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 50 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นหนี้นอกระบบ บางคนเล่าเรื่องราวความทุกข์ใจพร้อมน้ำตา โดยหวังว่านี่จะเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้สามารถลืมตาอ้าปากได้

ส่วนความคืบหน้าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น กทม. นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคมีเจตนาที่จะส่งผู้สมัคร ส.ก. ซึ่งผู้สมัครได้ทำการพิสูจน์ตัวเองแล้ว โดยเฉพาะช่วงการระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ทั้งการหาเตียง การฉีดพ่นฆ่าเชื้อ หรือการดูแลทุกอย่างที่เป็นประเด็นเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เป็นตัวชี้วัดที่บอกได้ว่า ใครเป็นตัวจริง ใครเป็นของจริง โดยเราจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัคร ส.ก. เร็วๆ นี้ ส่วนตัวผู้ว่าฯ กทม. ส่วนตัวมองว่ามีผู้สมัครเยอะแล้ว แต่สิ่งที่ขาด คือ คนที่มีความรู้ความสนใจ เรื่องปากท้องและเศรษฐกิจ โดยทีมงานพรรคกล้า สามารถเสริมงานการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. ในอนาคตได้ แต่สุดท้ายพี่น้องประชาชนจะเลือกใคร พรรคกล้าก็จะทำงานเพื่อตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการนำเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องปากท้องในเรื่องเศรษฐกิจปัญหาหนี้สิน


กำลังโหลดความคิดเห็น