คดีแตงโมเขย่าเก้าอี้ ผบ.ตร.เพราะความไม่เชื่อมั่นและศรัทธา พาสงสัย **ดินเนอร์การเมือง ไฟต์บังคับเล็กๆ น้อยๆ ช่วงนี้ “ลุงตู่” จำเป็นต้องรักทุกคน

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**คดีแตงโมเขย่าเก้าอี้ ผบ.ตร. เพราะความไม่เชื่อมั่นและศรัทธา พาสงสัย

คดีของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นกระแสอยู่ในความสนใจของสังคมมาอย่างต่อเนื่อง นับแต่เริ่มเกิดเหตุวันที่เธอตกเรือเสียชีวิต 24 ก.พ. จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนการทำงานของตำรวจยิ่งมายิ่งสร้างความไม่เชื่อมั่น

“อะตอม สัมพันธภาพ” อดีตนักแสดงหนุ่ม เพื่อนของแตงโม เป็นผู้หนึ่งที่ได้โพสต์ถามคำถามถึง “ความแปลก” ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบหาความจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเพื่อนสนิท

ในโพสต์เขาบอกว่า ไม่อยากพูดคำว่า “แปลกเกิน” กับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่พูดคงจะไม่ได้
1. เจ้าของเรือพร้อมผู้โดยสารที่อยู่บนเรือ 5 คน ผมดูจากคลิปก็รู้ว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย คุณปล่อยกลับบ้านไปตอนที่เพิ่งเกิดเหตุใหม่ๆ วันแรกได้ไง? ทั้งมีคนเสียชีวิตบนเรือลำนี้นะเว้ย ปล่อยกลับบ้านได้ไงวะ? ถามหน่อยถ้าเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือคนที่คุณรักประสบเหตุแบบนี้บ้าง คุณจะปล่อยให้ผู้อยู่บนเรือกลับบ้านเปล่าครับ?
2. หลักฐานหรือคลิปต่างๆ เคยได้มาจากพวกท่านแล้วพวกท่านมาแถลงบ้างหรือเปล่าครับ? แต่เท่าที่ผมเห็นคลิปเพราะท่านอื่นๆในประเทศไทยที่รัก และอยากหาความเป็นธรรมให้เพื่อนผมแชร์ในโลกโซเชียลฯ และส่งหลักฐาน เช่น คลิปต่างๆ ให้พวกท่านทั้งสิ้น ทำไมไม่มาจากทีมพวกท่านบ้างเลยครับ?


3. ผมเชื่อ “คุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์” เพราะท่านตงฉิน และท่านเป็นอดีต ผอ.ที่รับผิดชอบเรื่องผ่าศพมาก่อน ยังออกมาพูดว่าผิดปกติเกินไป และระหว่างคุณหมอพรทิพย์ ซึ่งปิดคดีดังๆ ของประเทศไทยมานับไม่ถ้วน พวกท่านคิดว่า พวกผมควรจะเชื่อคุณตำรวจที่รับผิดชอบ หรือคุณหมอพรทิพย์ รวมถึงทนายและคนไทยทั้งประเทศดี ผมควรเชื่อใครดีครับ

4. แล้วทำไมพวกท่านถึงไม่รีบสืบหาและออกมาแถลงให้สื่อมวลชนทราบ ว่าใครกันที่มาขู่เพื่อน “คุณแตงโม” ด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ บอกตามตรงว่าไอ้พวกนิสัยแบบนี้ ผมไม่เคยกลัวแม้แต่นิดเดียว ผมถามพวกท่านหน่อย มันสืบยากมากเลยเหรอครับ ?

5. ผมสอบถามหน่อยครับผมในฐานะเพื่อนสนิทผู้ตายและอยู่ “สมาคมกู้ภัย” เหมือนกัน และได้ไปรอรับร่างไร้วิญญาณของเพื่อนที่ท่าน้ำ ตรงที่เจ้าหน้าที่รับร่างเพื่อนผมขึ้นมา และเจ้าหน้าที่ที่รับร่างเพื่อนผมขึ้นมาบอกผมว่าไปเจอกันที่โรงพยาบาลใน ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ผมไปรอเป็นชั่วโมง แล้วถามเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ รพ. เจ้าหน้าที่ รพ.บอกว่าตำรวจให้รถกู้ภัย วกกลับบนทางด่วนเพื่อไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่ขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำไมเหรอครับท่าน

6. เมื่อวานนี้ ผมดีใจมากที่แม่ยังไม่รีบเอาเพื่อนสนิทผมไปรีบเผา และให้ตรวจสอบการเสียชีวิตก่อนและทราบว่า วันนี้จะมีทนายไปยื่นที่กระทรวงยุติธรรม ผมในฐานะเพื่อนสนิท ต้องบอกว่า ผมโคตรดีใจมากครับที่ออกมาเป็นแบบนี้แล้ว แล้วใครที่คิดว่าตัวเองแน่ และสามารถเคลียร์ได้หมดที่ตนและพวกทำผิด เปิดตัวออกมาเลยครับ ผมอยากเจอหน้าพวกท่านเหมือนกัน”


เรื่องนี้ ไม่ใช่ “อะตอม” เพียงคนเดียวที่เคลื่อนไหวสงสัยการทำงานของตำรวจ ก่อนหน้าวันก่อน "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงความคืบหน้าของคดีนี้ ระบุว่า "คดีแตงโมรอบนี้อาจจะทำให้เก้าอี้ ผบ.ตร.สั่น ถ้ารัฐบาลทำไม่กระจ่าง ลุกลามทั่วประเทศแน่”

ทนายคนดังพูดไม่ทันข้ามวันดี ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) มีรายงานบรรยากาศที่ สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พบกลุ่มประชาชนทั้งชาย-หญิง ที่เป็นแฟนคลับของดาราสาวแตงโม นิดา เดินทางมารวมตัวกันตามนัดหมายประมาณ 20 คน จากทางกลุ่มเฟซบุ๊ก ชื่อ “คดีแตงโม ต้องได้รับความยุติธรรม” และกลุ่มโอเพนไลน์ ชื่อกลุ่ม “คดีแตงโม ต้องไม่ตายฟรี” 3 กลุ่ม ที่มีสมาชิกกลุ่มละ 5,000 คน เพื่อต้องการเรียกร้องทวงความยุติธรรมคืนให้กับดาราสาว ที่พวกเขารัก

ฟังว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้ว กับการที่แฟนคลับจำนวนหลายคน เริ่มเดินทางมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ แตงโม นิดา โดยทางกลุ่มต้องการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำงานให้เกิดความโปร่งใส ยุติธรรมในคดีดังกล่าวและต้องการให้มีการนำตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องต่อการเสียชีวิตของดาราสาว มารับโทษตามกฎหมายให้ได้ เนื่องจากมองว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง น่าจะมีความไม่โปร่งใสในการทำคดีดังกล่าว

งานนี้ ตอกย้ำว่า เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นและศรัทธาล้วนๆ จากคดีที่ธรรมดากลายเป็นปริศนาน่าสงสัยตำรวจ “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร.ที่กระโดดลงมาคุมคดีเอง..จะรู้สึกถึงอารมณ์ของสังคมหรือไม่ เก้าอี้ ผบ.ตร. จะไหวสั่นจากแรงเขย่าของสังคมแค่ไหน...โปรดติดตามอย่ากะพริบตา




**ดินเนอร์การเมือง ไฟต์บังคับเล็กๆ น้อยๆ ช่วงนี้ “ลุงตู่” จำเป็นต้องรักทุกคน

ช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แม้อาจจะน้ำหนักตัวเพิ่มหน่อย ก็คงไม่มีทางเลี่ยงเพราะเคลื่อนไหวนัดดินเนอร์กับกลุ่มก๊วนการเมืองถี่ๆ จากพรรคร่วมรัฐบาล อย่างภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ กำลังจะเป็นคิวพรรคเล็กพรรคน้อย ที่กำหนดในวันที่ 17 มีนาคม เวลา 18.00 น. ที่สโมสรราชพฤกษ์ ถนนวิภาวดีรังสิต

ดินเนอร์การเมืองของ “ลุงตู่” ถือเป็นไฟต์บังคับ ทางหนึ่งกระชับสัมพันธ์ ทางหนึ่งก็แสดงออกถึงขุมกำลัง เช็กเสียง เช็กเรตติ้งว่ากันไป

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ในภาวะที่อัตคัตขัดสนกองหนุนที่เคยเคียงข้างก็ลดน้อยถอยลง ไหนจะหอกข้างแคร่ที่แก้ไม่ตก อย่างก๊วน “ผู้กองธรรมนัส”

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ไปเพาะสร้างกองกำลังชนกลุ่มน้อยใหม่อย่างพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีข่าวกำลังทอดสะพานร่วมมือกับพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆ เข้ามาเป็นเครือข่าย หมากตานี้ย่อมทำให้ “ลุงตู่” ไม่อยู่เฉย จำต้องแสดงออกว่า “รักทุกคน” จากเมื่อก่อนเคยเมินเฉย ต้องลดตัวที่ไม่เกลือกกลั้วกับปลักนักการเมือง ก็ต้องทำกันล่ะ โดยให้ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นคนประสาน


“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็มองปรากฏการณ์นี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วย เพราะถือว่าพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก ขนาดกลาง ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาลทั้งสิ้น

ถามว่า มีการมองกันว่าการที่นายกรัฐมนตรีเชิญพรรคเล็กร่วมรับประทานอาหารค่ำ ถือเป็นการเช็กเสียงหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ ว่าวัตถุประสงค์เพิ่มเติม คืออะไร ?

เมื่อถามว่า ส่วนตัวมั่นใจว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่เหมือนเดิม “จุรินทร์” กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ และพรรคแกนนำหลักจะต้องเป็นตัวตั้งสำคัญในการที่จะประเมินและตรวจสอบเสียงว่าเสียงที่แท้จริงของรัฐบาลสุดท้ายแล้วมีจำนวนเท่าใด ซึ่งต้องมีคำตอบที่ชัดเจน เพราะในระบบรัฐสภา เสียงในสภาผู้แทนราษฎรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

รวมถึงจำเป็นที่รัฐบาลในระบบรัฐสภาจะต้องมีเสียงข้างมาก ไม่เช่นนั้น จะกระทบกับรัฐบาล เช่น ถ้าเป็นเสียงข้างน้อย กฎหมายรัฐบาลไม่ผ่านจะมีผลทำให้รัฐบาลต้องยุบสภา หรือลาออก และถ้ารัฐบาลแพ้เสียงในประเด็นที่มีความสำคัญ มันก็จะกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาลได้


เรื่องเดียวกันนี้ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้จับตาว่า กลุ่มพรรคเล็กพรรคน้อยจะตอบรับแค่ไหน กระชับสัมพันธ์ส่วนของภาพเพราะจำต้องแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองว่า เขาก็พร้อม สามารถนัดหมายมาพูดคุยเรื่องงาน และทิศทางกันได้ แต่เมื่อถึงเวลาโหวต หรือ สนับสนุนก็อาจจะคนละอย่าง

ในมุมของฝ่ายค้าน การที่พรรคเล็กนัดรับประทานอาหารกับ “ลุงตู่” ทรงพลังกว่าพรรคใหญ่นัดเสียอีก เพราะขณะนี้ 30 เสียง คือตัวแปรที่จะไปตรงไหนก็ได้ ฉะนั้นถ้าใครสามารถจัดการ 30 เสียงนั้นได้ ก็จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้

ดินเนอร์การเมืองเกมนี้ “ลุงตู่” ไม่มีทางเลือกจริงๆ อ้วนลงพุงก็ต้องยอม เพราะเพื่อมัดใจพรรคเล็กพรรคน้อย ลุงตู่จะงัดอะไรมาขาย นี่ต้องติดตามดูกันต่อไป