“สุรทิน” ตัดพ้อ พรรคเล็กชนชั้นที่ 2 เผย ยังชั่งใจ หากถูกนายกฯเชิญกินข้าว ขอคิดก่อนหลังถูกชาวบ้านด่า รัฐบาลมัวกินแต่ข้าวไม่ลงไปช่วยประชาชน แนะนัดถกแก้ปัญหาดีกว่า ยอมรับ รัฐบาลเริ่มนับถอยหลัง หากแก้ของแพงไม่ได้ ระบุ ยุบสภาถือเป็นทางออก แต่ยังหนุนรัฐบาลให้แก้ปัญหาต่อ
วันนี้ (12 มี.ค.) นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นกระแสข่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเชิญพรรคเล็กร่วมรับประทานอาหารเย็นในวันที่ 17 มี.ค.ที่ สโมสรราชพฤกษ์ ว่า ส่วนตัวได้ยินข่าวมาเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้รับโทรศัพท์เทียบเชิญ แต่หากได้รับเชิญ ก็ขอคิดดูก่อน เพราะตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่พรรคเล็กไปกินข้าวร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ก็มีประชาชนวิพากษ์วิจารณ์และส่งเสียงสะท้อนมายังตนเอง ว่า ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนข้าวยังไม่มีจะกิน เดือดร้อนทั้งโควิด มีสารพัดปัญหา แต่ทาง ส.ส.และรัฐบาลกลับเชิญกันกินข้าวอยู่ทุกวัน ภาพออกมาเป็นลบมากกว่า จะถูกมองว่า ผู้นำประเทศ มีความสุขบนความทุกข์ของชาวบ้านหรือไม่ จึงขอแนะนำให้นายกฯ มองภาพรวม ไม่ควรมองแบ่งกลุ่ม รวมถึงฝ่ายค้านด้วย ไม่ทำการเมืองแบบขีดเส้นแบ่งแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และมองว่า ครั้งแรกที่เชิญพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีพรรคเล็กเข้าไปร่วม ยอมรับว่า กลายเป็นชนชั้นที่สอง ซึ่งก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ถ้าจะให้ดีเรียกประชุมระดมปัญหาประชาชนเพื่อนำไปแก้ไขดีกว่า เรื่องกินข้าวไม่ได้สำคัญสามารถห่อข้าวไปเองได้
นายสุรทิน ยืนยันว่า การกินข้าวร่วมกันกับพรรคเล็ก และ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้เป็นการรวมตัวกดดันนายกฯ แต่เป็นกลุ่มที่ดูแลกันมาตลอด มีโอกาสมาเจอกันและนำปัญหาของชาวบ้านมาพูดคุย โดยมองว่าอย่าไปกดดันนายกเลย เพราะปัญหาโควิดก็พุ่งขึ้นทุกวัน ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาข้าวของแพง ราคาน้ำมัน มีแต่ปัญหายืนยันไม่ใช่เรื่องการกดดันในสภา และไม่ได้คิดไปถึงขั้นโหวตสวนนายกฯในสภา หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยืนยันว่า โดยมารยาทที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แม้มีเสียงเดียว แต่เมื่อรับปากกับผู้ใหญ่แล้ว ก็พร้อมสนับสนุนรัฐบาล ดูแลให้แก้ปัญหาผ่านไปได้จนตลอดรอดฝั่ง แต่ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ดูแลพรรคเล็กเลยก็ตาม แต่จากอยู่ครบเทอมหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่มองว่า หากมีการยุบสภามีการเลือกตั้งก็จะทำให้เงินสะพัดช่วยชาวบ้านได้มากขึ้น แต่ยอมรับว่า รัฐบาลมีแนวโน้ม เริ่มนับถอยหลังจะหมดเวลา ขอแค่ยอมรับความจริงไม่หลอกตัวเอง
ทั้งนี้ นายสุรทิน ยอมรับว่า ไม่สบายใจที่หากจะมีการเชิญไปกินข้าวกันอีก เพราะชาวบ้านก็ก่นด่ามา จึงขอเสนอแนะนายกฯ ว่า เปลี่ยนจากเชิญพรรคร่วม พรรคเล็กกินข้าว ควรเป็นเชิญทั้งสภา มารับฟังปัญหาประชาชน หรือ นำข้าวสารไปช่วยกันแจกให้ชาวบ้านแล้วพูดคุยกัน เพื่อแก้ปัญหาจะดีกว่า เพราะชาวบ้านยากจนจริงๆ โดยเฉพาะชาวอีสาน ที่แม้โครงการคนละครึ่งก็ยังไม่ได้ เพราะไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และถ้ามัวไปกินแต่ข้าวกันหากประชาชนไม่เลือกกลับเข้ามาในสมัยหน้าคงไม่ดีแน่
“สถานการณ์ปัญหาที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขข้าวของแพงทุกอย่าง แพงทั้งแผ่นดิน หากกลไกของรัฐแก้ไขปัญหาไม่ได้จะให้คนอื่นเข้ามาแก้ก็เป็นอีกเรื่อง แต่เมื่อชาวบ้านเดือดร้อน ของแพงแล้วยังไม่ได้ลงไปดูแลอย่างเต็มที่การเลือกตั้งครั้งหน้า ก็อาจจะสอบตกได้ซึ่งวิธีการเมืองและการเลือกตั้งเป็นแบบนี้ เราต้องฟังเสียงชาวบ้านไม่ได้ฟังเสียงทหารเพราะเรามาจากการเลือกตั้งจริงๆ”
นายสุรทิน เปิดเผยด้วยว่า สำหรับพรรคประชาธิปไตยใหม่จะไม่ยุบพรรคตัวเองไปรวมกับเศรษฐกิจไทยของ ร.อ.ธรรมนัส แต่พรรคเล็กบางพรรคมีข่าวว่าจะไปร่วมในสมัยหน้า แต่ก็สามารถประสานการทำงานกันได้ เพราะประเทศไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้มีพรรคเดียวแน่นอน เพราะการเป็นรัฐบาลจะสามารถนำงบประมาณไปช่วยเหลือชาวบ้านได้โดยตรงส่วนฝ่ายค้านทำได้ยาก