xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” จ่อชง ครม.พิจารณา “ยูเซปพลัส” รับสถานการณ์โควิดขาลง คนหายป่วยมากกว่าป่วยใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน” รับสถานการณ์ป่วยโควิดขาลง เหตุคนหายมากกว่าป่วยใหม่ ชง ครม. พิจารณา “ยูเซปพลัส” เพิ่มความคล่องจ่ายเงินเอกชน

วันนี้ (8 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.12 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ โควิด-19 ที่ดูเหมือนว่าผู้ติดเชื้อลดลง แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ว่า ตอนนี้สถานการณ์น่าจะเป็นขาลง ทุกรอบของการระบาด ช่วงแรกผู้ติดเชื้อกับผู้หายป่วยจะตัวเลขที่ห่างกัน วันหนึ่งผู้หายป่วยจะมากขึ้น ถ้าผู้หายป่วยมากกว่าผู้ติดเชื้อ เช่น วันนี้ที่ผู้หายป่วยมากกว่าผู้ติดเชื้อใหม่ประมาณ 5 พันกว่าคน ถือเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตต้องนำไปเทียบเคียงกับผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 และอาจจะเสียชีวิตจากโรคอื่นที่เป็นอยู่ จึงได้ขอให้กรมควบคุมโรคแยกประเภทของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ออกให้ชัดเจน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนที่จังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไม่สวมหน้ากากอนามัยนั้น วันนี้การสวมหน้ากากอนามัยเป็นค่านิยมไปแล้ว คนที่รักตัวเองก็ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เชื่อว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดก็จะมีมาตรการ และเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ผ่านมา ตนได้ออกมาพูดถึงเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัยของชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ ตอนนี้จึงเชื่อว่าคนที่ได้พบเห็นก็รู้สึกเหมือนตนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และปกติแล้วพบผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยเดินเข้าร้านค้าก็ต้องมีการห้าม

เมื่อถามว่า ยูเซปพลัสจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) รายละเอียดเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างยังเหมือนเดิม คือ เรื่องการจัดระเบียบผู้ป่วยสีเขียวว่าจะเข้าถึงแพทย์และเตียงอย่างไร ซึ่งเราจำเป็นต้องมีเตียงให้กับผู้ป่วยอาการหนักสีแดง และผู้ป่วยสีเหลือง ทั้งนี้การจัดระเบียบการเข้าถึงเตียงไม่ต้องเข้าที่ประชุม ครม.ตนสามารถลงนามเองได้ และลงนามไปแล้ว แต่สิ่งที่เข้า ครม.คือ ของบประมาณมาทำเรื่องยูเซปพลัส ซึ่งเป็นการปรับหมวดค่าใช้จ่ายซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโควิดสามารถเข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้ทั้งโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐ และไม่ต้องมีการส่งตัว เพื่อให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รีบจ่ายโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยเหล่านี้เข้าไปรักษาไม่ใช่การลิดรอนสิทธิประชาชน และในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ตนจะเข้ากระทรวงสาธารณสุข โดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องและ สปสช.มาหารือ เพราะได้ข่าวว่าโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งในพื้นที่ต่างจังหวัด รับผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ยังเบิกจ่ายไม่ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นประเด็นปีกย่อยก็ต้องแก้ปัญหากันไป


กำลังโหลดความคิดเห็น