เลือกข้างสงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” ระวัง “ชักศึกเข้าบ้าน” “ปูติน” เตือนไม่ควรซ้ำเติมให้เลวร้าย สถานทูตรัสเซีย ชี้ ทหารรับจ้างไม่มีสิทธิสถานะเชลยศึก แถมอาจถูกดำเนินคดี นักข่าวช่องดัง ชี้เป้า “สามนิ้ว” รุมประณาม
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น นักการเมืองไทยปากพล่อย จงระวังให้มาก! ถอดรหัส “ปูติน” เตือนเพื่อนบ้านอย่าคว่ำบาตรรัสเซีย เราทำตามหน้าที่ ไม่ควรซ้ำเติมในช่วงเวลานี้!?
โดยระบุว่า หลังจากที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกตัวเคลื่อนไหวปมรัสเซีย-ยูเครน เรียกร้องให้ “ปูติน” ถอนทหารจากยูเครนทันที อย่างไม่มีเงื่อนไข และตามมาด้วยการวิจารณ์ว่า รัฐบาลต้องเป็นกลาง อย่าเป็นนกสองหัวจากเหตุการณ์นี้ รวมทั้งยังมี คลิปที่ ช่อ พรรณิการ์ วานิช ออกมาฟันธงว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ รัสเซียจะแพ้ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กลับว่า มีนักการเมืองจำนวนไม่น้อย ที่อาศัยจังหวะนี้ พูดโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมา โดยประชาชนส่วนใหญ่ เชื่อมั่นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะรับมือ และรู้จุดยืนที่จะทำให้ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ บรรดานักการเมือง หรือคนบางกลุ่มพยายามจะวิจารณ์สถานการณ์ในรัสเซีย-ยูเครน และเรียกร้องให้นานาประเทศคว่ำบาตรรัสเซีย ก็ทำให้ประธานาธิบดี ปูติน ออกมาสื่อสารตอบโต้กลับแบบมีนัยสำคัญไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน และงานนี้อาจจะสะเทือนถึงนักการเมืองไทยบางรายด้วย
โดยความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบในยูเครน มีรายงานว่า ยังคงมีการเคลื่อนไหวในกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการยกระดับการโจมตีของฝ่ายรัสเซีย ขณะที่ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้แถลงเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 65 ว่า รัสเซีย “ไม่มีเจตนาร้าย” ต่อประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในเวลาเดียวกัน กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ควรใช้มาตรการจำกัดในรูปแบบใดต่อรัสเซีย เพราะจะเป็นการยกระดับความตึงเครียดโดยไม่จำเป็น
นอกจากนี้ ปูติน ยืนยันว่า ได้ดำเนินการทุกอย่างตามหน้าที่ ซึ่งจากบรรยากาศตอนนี้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง “ซ้ำเติม” หรือทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิมอีก และ ปูติน ย้ำว่า หากรัฐบาลรัสเซียยกระดับมาตรการในรูปแบบใด นั่นหมายความว่า เป็นการตอบสนองต่อการดำเนินการที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียเท่านั้น
เรายืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่มีเจตนาร้ายต่อเพื่อนบ้าน ผมอยากจะบอกกับประเทศเหล่านี้ ว่า อย่าทำให้เกิดความตึงเครียดมากกว่าเดิม อย่าใช้มาตรการคว่ำบาตร เราทำตามหน้าที่ของเราและจะดำเนินการต่อไป
เราไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำให้สถานการณ์ตึงเครียดหนักขึ้น และทำให้สถานการณ์แย่ลง สิ่งที่เราทำทุกอย่างเป็นไปเพื่อการตอบโต้การกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศรัสเซียเท่านั้น ผมคิดว่า ทุกคนควรรักษาความสัมพันธ์และความร่วมมือให้เป็นไปตามปกติต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กทางการของสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า ขณะนี้สื่อต่างๆ กำลังถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และได้เรียกร้องให้เข้าร่วมกองกำลังอาสาสมัครนานาชาติ และเข้าร่วมสู้รบไปกับกองทัพยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องนั้นได้ถูกโพสต์ลงเพจของสถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย
ในเรื่องนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้เตือนไว้ว่า ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ทหารรับจ้างชาวต่างชาติไม่ได้จัดให้เป็นทหารและไม่มีสิทธิได้รับสถานะเชลยศึก พวกเขาจะต้องเผชิญกับการดำเนินคดีตามมา กระทรวงกลาโหม ขอเตือนว่าไม่ให้เข้าร่วมในการกระทำดังกล่าว
ทั้งยังโพสต์อีกว่า ในช่วงเวลานี้ สถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ได้รับจดหมายจากผู้ที่ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ในยูเครน โดยได้แสดงการให้การสนับสนุนต่อรัสเซีย จดหมายนั้นมาจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาอยู่ที่ประเทศไทย บางคนได้ประกาศความพร้อมในการลงทะเบียนเข้าร่วมกองทัพรัสเซีย อย่างไรก็ตาม กฎหมายของรัสเซียในปัจจุบันไม่ได้ให้การมีส่วนร่วมของชาวต่างชาติที่พำนักถาวรนอกสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าร่วมทางการทหาร อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกขอบคุณทุกคนสำหรับความเห็นอกเห็นใจและการสนับสนุนที่ส่งถึงรัสเซีย
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น นักข่าวช่องดัง โพสต์เดือด ทำสามนิ้วบุกประณาม ปูติน หลังสั่งล่ารายชื่อ ประเทศที่คว่ำบาตรรัสเซีย ภายใน 2 วัน
เนื้อหาระบุว่า กำลังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก กรณีหลายประเทศเริ่มเคลื่อนไหวออกมาคว่ำบาตรรัสเซีย รวมถึงมีกลุ่มนักการเมือง และผู้สนับสนุนกลุ่มชุมนุมสามนิ้ว ก็พยายามออกมาเคลื่อนไหว ให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกับ EU คว่ำบาตร รัสเซีย
ต่อมาวันนี้ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ประกาศข่าวช่องวอยซ์ออนไลน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ปูตินสั่งคณะรัฐมนตรีรวบรวมรายชื่อประเทศที่คว่ำบาตรรัสเซียภายใน 2 วัน ระบุคว่ำบาตรคือการประกาศสงครามต่อรัสเซีย”
จากข้อความดังกล่าว ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุน วอยซ์ออนไลน์ เข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่เป็นการโจมตี รัสเซีย เช่น
“ปูตินดื้อด้านจริงๆ ครับ แทนที่จะถอนทหารจากยูเครน และปล่อยให้ยูเครนเดินตามทางของตัวเอง กลับยังคงหน้าด้านถล่ม รุกรานยูเครนต่อไปโดยไม่แคร์โลกเลย ปูตินบ้าไปแล้วครับ”
“ไม่ใช่แค่ทหารรัสเซีย แต่เป็นคนรัสเซียที่จากนี้ไป จะอยู่บนโลกใบนี้ยากขึ้น เมื่อชาวโลกพากันรังเกียจคนรัสเซีย และไม่ทำมาค้าขายด้วยอีกนาน เป็นแผลสงครามที่ติดอยู่กับประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“มันเริ่มเน่าแล้วยิ่งประกาศแบบนี้ยิ่งจบเร็ว ใครคิดว่าจีนจะเอาด้วยฝันไป ผู้นำจีนมีสมองกว่าปูตินจบจีนจะรวยมากทันที และใหญ่แบบไม่ต้องใช้กำลัง แต่ใช้เงินซื้อประเทศอื่นตอนนี้ก็ทำอยู่”
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของสื่อในประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่นๆ ควรที่จะขยับอย่างระมัดระวัง ไม่ควรที่จะเอนเอียงหรือชี้นำแนวคิดให้ไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
สำหรับจุดยืนต่อเรื่องนี้ของรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 65 พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์เฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha” ระบุว่า ประเทศไทยมีจุดยืนในการ “สนับสนุนแนวทางการแก้ปัญหาอย่างสันติ” และ “พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่” กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 3 มี.ค. 65 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ รายงานท่าทีไทยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียกับยูเครน ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) ซึ่งไทยสนับสนุนความพยายามของยูเอ็นในการหาทางยุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสันติ ผ่านการเจรจาที่เป็นไปตามกฎบัตรของยูเอ็น และกฎหมายระหว่างประเทศ โดยไทยจะทำอย่างสุดความสามารถในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของพลเรือนที่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งยังสนับสนุนการเรียกร้องขอให้ยุติความรุนแรงและการใช้อาวุธทันที
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ การแสดงออกของนักการเมืองไทย นักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมทั้งสื่อมวลชน จะต้องระมัดระวังอย่างสูง เพราะสถานการณ์สงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ใช่เรื่องที่จะเลือกข้างได้โดยง่ายตามอารมณ์ความรู้สึก อย่างที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์
เหนืออื่นใดที่ต้องระวังอย่างหนัก ก็คือ จะกลายเป็นการ “ชักศึกเข้าบ้าน” โดยไม่จำเป็น และกลายเป็นความขัดแย้งภายในประเทศไทย ที่เกิดขึ้นระหว่างคนไทยกับรัฐบาลไทยเสียเอง ซ้ำเติมสถานการณ์ขัดแย้งทางการเมือง ระหว่าง “สามนิ้ว” กับ ฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล
หรือว่านี่คือสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว!?
