"อนุทิน" Kick Off เปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ "ปลดล็อค กัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้" ที่เขตสุขภาพที่ 9 จังหวัดสุรินทร์ เป็นที่แรก ระบุจะเดินสายทั่วประเทศ 12 เขตสุขภาพ ให้ความรู้ประชาชนใช้ประโยชน์จากกัญชา และป้องกันการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ยืนยัน เร่งออกกฎหมาย คนไทยได้สิทธิ์แจ้งปลูกกัญชาในครัวเรือน ขอ ปชช.ใช้ให้ถูกต้อง ป้องกันถูกบิดเบือนทำลายเจตนารมณ์
วันนี้(4 มี.ค.) ณ อาคารเรียนรวม 100 ปี คณะเทคโนยีการจัดการ มหาวิทยาลัยราชมงคลเทคโนโลยีอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 9 มีคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บุคลากรการแพทย์ และประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ เป็นนโยบายที่ได้รับการผลักดันมาตั้งแต่ปี 2562 ที่มีการเลือกตั้ง เราสัญญาไว้ว่าหากได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ต้องทำเรื่องนี้ให้เกิดความเป็นรูปธรรม เพื่อความผาสุกทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจของประชาชนเราใช้เวลา 2 ปีเศษในการให้กัญชาหลุดพ้นจากความเป็นยาเสพติด เราสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชงและกัญชาได้ตามกรอบที่วางไว้ ทั้งในเรื่องของการรักษาอาการเจ็บป่วย ไปจนถึงการเป็นพืชเศรษฐกิจ แต่อย่าใช้เพื่อความบันเทิง สันทนาการ เราเริ่มเรื่องนี้จากการผลักดันใช้ในทางการแพทย์ ได้จัดอบรม แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง ไปจนถึงการควบคุมการขออนุญาตเพื่อใช้เป็นยา และสินค้าต่างๆ กัญชา มีประโยชน์ทุกส่วน ราก ต้น ใบ ดอก ใช้ได้หมด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การประกาศชื่อกัญชาออกจากยาเสพติดได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และภายใน 120 จากนี้ เราจะมีกฎหมายที่ออกมาเพิ่มเติม เพื่อกำหนดกรอบการใช้ประโยชน์ เรากำลังเดินหน้าให้ประชาชน สามารถจดแจ้งปลูกกัญชาได้ และไม่ได้จำกัดที่ 6 ต้น แต่ท่านสามารถปลูกได้มากกว่านั้น ภายในครัวเรือนของประชาชน ยกเว้นว่าท่านจะปลูกเชิงอุตสาหกรรม ที่ท่านต้องขออนุญาต แต่ถ้าปลูกในครัวเรือน ก็เพียงจดแจ้ง
ปัจจุบัน กฎกรอบการใช้ กำลังร่างกันอยู่ ที่ขอคือ อย่านำไปใช้เพื่อความสนุกสนานเฮฮา ประโยชน์กัญชา มีมากกว่านั้น เคยเห็นผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยนอนไม่หลับ ใช้กัญชารักษา แล้วอาการดีขึ้น นี่คือประโยชน์ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย เราต้องเดินทางไปทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องการใช้กัญชา
"มั่นใจว่า พี่น้องประชาชนมีความเข้าใจอย่างเพียงพอที่จะนำสิ่งดีๆ จากกัญชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน ปลูกกัญชาสร้างรายได้ ไป จนถึงการปลูกเพื่อรักษาตัวเองและทำให้กัญชา กัญชงกลายเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ หลังจาก 120 วันนับตั้งแต่มีการปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ขอให้ประชาชนใช้กัญชาเพื่อสร้างคุณประโยชน์เท่านั้น อย่านำไปใช้ให้เกิดโทษจนมีคน นำเจตนารมณ์ ในการใช้กัญชาทางการแพทย์ และเพื่อแก้ปัญหาปากท้อง ไปบิดเบือน เมื่อมีกฎกรอบกำหนดวิธีใช้ ขอให้ดำเนินการไปตามนั้น อย่าให้ถูกมองว่า เราทำผิดสัญญานานาชาติ"นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข มีผู้ป่วยได้รับยากัญชา มากกว่า 240,000 ราย เป็นยาแผนไทย 85% แผนปัจจุบัน 15% รวมถึงมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสูงกว่า 7 พันล้านบาท และ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน เป็นการเปิดโอกาสให้สามารถนำพืชกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และในครัวเรือนได้มากขึ้น โดยไม่ต้องขออนุญาต เปลี่ยนเป็นการจดแจ้งให้รัฐทราบ ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชา 400 กว่าแห่ง กัญชง 1,800 กว่าแห่ง ที่ได้รับอนุญาต และมีผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชงออกสู่ตลาดอย่างกว้างขวาง
ภายในงานมีบูธแสดงผลิตภัณฑ์แนะนำ สินค้ากัญชา กัญชง การสอนทำอาหารคาว หวาน สูตรกัญชาสะเร็น กาละแมร์กัญชา คลินิคกัญชาทางการแพทย์ ผลิตสารสกัดจากกัญชา กัญชง เครื่องดื่มผสมกัญชา เป็นต้น