“บิ๊กตู่” ห่วงคนไทยในยูเครน กำชับหน่วยงานเตรียมพร้อมช่วยเหลือให้ทันต่อสถานการณ์

นายกฯ ติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือชาวไทยในยูเครน และแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ยังประสงค์จะอยู่ในพื้นที่ พร้อมกำชับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือชาวไทยอย่างทันท่วงทีต่อทุกสถานการณ์

วันนี้ (3 มี.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในยูเครนอย่างใกล้ชิด แม้ได้ให้ความช่วยเหลือคณะชาวไทย 2 กลุ่มแรก จำนวน 96 คน ที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาแล้ว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนที่เพิ่มสูงขึ้น นายกฯ ยังคงแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยในยูเครนที่เหลืออยู่และเจ้าหน้าที่ชาวไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ยูเครน รวมทั้งได้กำชับให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยในยูเครนอย่างทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานความคืบหน้าแผนการให้ช่วยเหลือคนไทยในยูเครน จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 คณะคนไทยที่อพยพออกจากยูเครนชุดที่ 3 จำนวน 40 คน ได้เดินทางออกจากประเทศโปแลนด์กลับมายังประเทศไทยและมีกำหนดถึงประเทศไทยในวันนี้ (3 มี.ค.) โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK384 เวลา 12.05 น.

ทั้งนี้ ยังคงการช่วยเหลือคนไทยอพยพออกจากยูเครนเพิ่มเติม ได้แก่ คนไทยจำนวน 43 คน ได้เดินทางจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน เมืองลวิฟ เข้าสู่ประเทศโปแลนด์ และเข้าพักในโรงแรมที่กรุงวอร์ซอ เพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 4 มีนาคม 2565 พร้อมกันนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ได้ช่วยเหลือให้คนไทยที่อพยพออกจากประเทศยูเครน จำนวน 16 คน เพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 4 มีนาคม 2565 ต่อไป
โดยโฆษกรัฐบาล กล่าวถึงสถานการณ์อพยพคนไทยออกจากยูเครนในขณะนี้ จากจำนวนคนไทยในยูเครนทั้งหมด 256 คน กระทรวงการต่างประเทศ ได้อพยพคนไทยออกจากประเทศยูเครนแล้ว จำนวน 203 คน ซึ่งมีคนไทยจำนวน 31 คนที่แสดงความประสงค์จะอยู่ต่อโดยเฉพาะคนไทยที่มีครอบครัวในยูเครน ฯลฯ อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ยังติดค้าง สถานเอกอัครราชทูต ยังคงดำเนินการเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกคนอย่างต่อเนื่อง และชาวไทยทุกคนปลอดภัย

“นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณต่อหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ที่ยังติดค้างอยู่ในยูเครนอย่างสุดความสามารถ พร้อมให้ความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้รายงานความคืบหน้าแผนการช่วยเหลือ และผลการดำเนินการส่งพี่น้องชาวไทยให้กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพมาอย่างต่อเนื่อง” นายธนกร กล่าว