xs
xsm
sm
md
lg

ขีดเส้นสิ้นเดือน ยุบโครงการ “อสม.ดูแลคนชรา” เงินกู้ 1 พันล้าน สู้โควิด พ่วงเรียกค่าปรับ อสม.ผิดสัญญาชิ่งลาออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ขีดเส้นสิ้นเดือน ยุบโครงการ “อสม.ดูแลคนชรา” เงินกู้มหาดไทย 1 พันล้านสู้โควิด “สถ.” จี้ผู้ว่าฯ เร่งจ่าย 5 พันบาท/หัว “งวดสุดท้าย” พ่วงเรียกคืน “เงินค่าปรับ” อสม. ผิดสัญญา ชิ่งลาออกก่อนครบสัญญา ตกเดือนละ 792 บาท หรือวันละ 40 บาท เผยเมื่อต้นปี สตง./บอร์ดเงินกู้ ผลประเมินพบไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ก่อนเสนอ ครม.ยุบโครงการ

วันนี้ (22 ก.พ.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ต้นสัปดาห์นี้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ

ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (อสม.ดูแลผู้สูงอายุ) ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามบัญชีท้ายพระราชกำหนด ภายใต้กรอบวงเงิน 1,080,590,000 บาท

โดยหนังสือแจ้งจังหวัดเพื่อให้ อสม.ดูแลผู้สูงอายุ ได้รับค่าตอบแทนจากการปฏิบัติงาน งวดสุดท้าย รายละ 5,000 บาท ของเดือนพฤศจิกายน 2564

รวมทั้งเร่งดำเนินการเรียกคืน “เงินค่าปรับจาก อสม.ดูแลผู้สูงอายุ ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้สามารถดำเนินการคืนเงินค่าปรับและงบประมาณเหลือจ่ายได้อย่างครบถ้วนโดยเร็ว ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2565 นี้”

ขอให้ท้องถิ่น ส่งคืนเงินค่าใช้จ่ายของโครงการฯ และเงินค่าปรับเข้าบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง ภายในวันที่ 4 มี.ค. 2565

พร้อมทั้งรายงานค่าใช้จ่ายของโครงการ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนโครงการๆ ตามมติ ครม. และมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เมื่อเดือน ม.ค. 2565

สำหรับโครงการนี้ ใน 2 กิจกรรม ได้แก่ การผึกอบรมอาสาสมัคร และ การจ่ายค่าตอบแทนอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นของเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล โดยให้เริ่มดำเนินโครงการๆ ตั้งแต่ ก.ค. 2563 - ก.ย. 2564 ก่อน ครม.ให้ขยายระยะเวลาโครงการ เป็น 1 ต.ค. 2563 - 30 พ.ย. 2564

“โดยให้สิ้นสุดการดำเนินการตามโครงการดังกล่าว ไม่เกินวันที่ 28 ก.พ. 2565 นี้”

สำหรับการเรียกคืน “เงินค่าปรับจาก อสม.ดูแลผู้สูงอายุ ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงเป็นระยะเวลา 1 ปี เป็นไปตามระเบียบ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา 12 เดือน รวมถึงผู้ที่ยื่นหนังสือขอลาออก ภายหลังได้ผ่านฝึกอบรม 70 ชั่วโมงแล้วตามถัวจ่ายหัวละ 9,500 บาท ให้เรียกค่าปรับเดือนละ 792 บาท หรือวันละ 40 บาท/คนที่ลาออก

“ที่ผ่านมา ผู้เข้าอบรม ยื่นหนังสือลาออกจำนวนมาก เพื่อไปประกอบอาชีพอื่น ทำให้อัตราค่าตอบแทน ของโครงการไม่สอดคล้องกับภาระงาน โดย สตง.ได้ขอรายงาน จาก สถ. เพื่อสอบถาม ว่าเหตุใดผู้ร่วมโครงการ จึงยื่นลาออกเป็นรายเดือน”

โครงการนี้ มหาดไทยเปิดรับสมัคร ผู้สนใจร่วมโครงการ 15,548 อัตรา มีค่าตอบแทน 5,000 บาท/เดือน โดยตัวเลขเมื่อเดือน พ.ย. 2563 มีผู้สมัครร่วมโครงการทั่วประเทศเพียง 12,205 ราย

ปลายปีที่แล้ว มท.ได้รับผลการประเมินโครงการ หลังมีการเบิกจ่ายพลาดเป้าหมาย 126.47 ล้านบาท

กระทรวงมหาดไทย ยังมีหนังสือถึงเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เพื่อเสนอ “ทบทวนโครงการนี้” เพื่อขอต่ออายุ ในปีงบประมาณ 2565

ขณะที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยมีหนังสือถึงคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยมองว่า วงเงินที่จัดสรรอาจเป็นค่าตอบแทนที่ต่ำเกินไปที่จะจูงใจให้อาสาสมัครทำงานต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้ผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลหรืออยู่ในภาวะพึ่งพิงไม่ได้รับการดูแลต่อเนื่องได้

“สตง.มีข้อเสนอว่าในการกำกับดูแลการดำเนินการในโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินกู้ฯ หากเป็นโครงการที่ไม่มีความคืบหน้า ไม่มีความพร้อมในการดำเนินการ หรือว่ามีเหตุผลชี้ชัดว่าหากดำเนินการไปแล้วจะไม่สัมฤทธิ์ผลก็ให้ ครม.สามารถสั่งยุติโครงการได้ทันที เพื่อนำเงินกู้ที่เหลือไปใช้จ่ายในโครงการที่มีความพร้อมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด”.


กำลังโหลดความคิดเห็น