“สุทิน” อภิปรายสรุปศึกซักฟอก ม.152 แนะนายกฯ ยุบสภา ไปพร้อมกัน มั่นใจกฎหมายลูกแก้ทัน เพื่อความเป็นธรรม ลั่นถ้าไม่ ยังยื้อคนจนจะพุ่งขึ้น จากจนเฉียบพลัน จนเรื้อรัง กลายเป็นจนถาวร
วันที่ 18 ก.พ. 2565 เมื่อเวลา 22.48 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณา “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี” วันที่สอง โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายสรุปภาพรวมทั้งหมด ว่า การอภิปรายครั้งนี้ข้อหาเยอะ ทำให้มีเนื้อหากระจัดกระจาย เพราะเราต้องการบอกปัญหา แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ในส่วนของตนเป็นผู้มาบอกข้อเสนอแนะ การอภิปรายตามมาตรา 152 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 และที่ผ่านมา มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจมา 2 ครั้งแล้ว เราบอกปัญหาและส่งสัญญาณเตือนภัยมาเป็นลำดับตั้งแต่ปี 62 โดยเฉพาะเรื่องจีดีพีและหนี้สาธารณะ ตอนนี้แพงทั้งแผ่นดิน จนทั้งแผ่นดิน และพังทั้งแผ่นดิน อาหารการกินทั้งหมดจากการสำรวจขึ้นราคาถึง 30-35% การเดินทางค่าใช้จ่ายขึ้น 30-40% ส่วนรายได้นั้นตกลง เกิดภาวะของแพงและไม่มีเงินใช้ รวมถึงค่าไฟฟ้า สินค้าสุขภาพ แม้กระทั่งหน้ากากอนามัยและเอทีเค ปัญหาการตกงาน ระวังโรคโรคต้มยำกุ้งจะกลับมา เพราะหนี้ทุกตัวขึ้นสูง ส่วนที่นายกฯบอกว่าภาวะแบบนี้เป็นทั่วโลก ตนก็ยอมรับว่าจริง แต่แม้โควิดออกไปไทยก็ไม่ฟื้น เพราะปัจจัยพื้นฐานของเราล้มก่อนโควิด-19 เปรียบเสมือนเรามองปัญหาผิด วินิจฉัยโรคผิด จ่ายยาผิด คนไข้ตาย เราโดนหนักกว่าทั่วโลก เขาแค่เซ แต่เราหัวคะมำ ส่วนที่บอกว่าเราเงินเฟ้อ เป็นสิ่งที่ตนกลัวมากที่สุด เพราะเราวินิจฉัยโรคผิด วันนี้ภาวะจริงๆคือเงินฝืด ชาวบ้านไม่มีเงิน เพราะเรายังไม่ฟื้น วันนี้ราคาสินค้าสูงขึ้น เพราะเขาดันต้นทุน แต่รายได้ต่ำ เงินไม่มี สินค้าแพงเพราะต้นทุนคือน้ำมันสูง น้ำมันแพงทำให้สินค้าแพงตามเรื่องนี้ตนไม่เถียง แต่ของเราน้ำมันแพง 30% แต่ส่วนอื่นราคาขึ้นแพงกว่า เพราะมันมีคนฉวยโอกาส เรามีนักการเมืองสองประเภทคือคนโง่ ที่รู้ไม่ทันพ่อค้า กับคนโกง ที่รู้ทันพ่อค้าแต่ร่วมกันทำขึ้นราคาแล้วแบ่งกัน ระวังเราจะลุกไม่ทัน
นายสุทิน อภิปรายต่อว่า ส่วนปัญหาสังคมที่ยาเสพติดระบาดจนอาชญากรรมเกิดขึ้นมากตาม โดยเฉพาะอาชญากรรมไซเบอร์จากเทคโนโลยี แต่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มาตามจับการเมืองมากกว่า ส่วนภัยจากการเมืองที่บอกว่าจะปฏิรูปการเมือง วันนี้อ่อนแอที่สุดและใช้เงินมาก เลือกตั้งท้องถิ่นเห็นแล้วเศร้า วันนี้ดึงกลับไปสู่ประชาธิปไตยแบบใช้เงินเป็นใหญ่ และที่ทำนั้นกรรมเลยมาตกที่ท่าน เพราะท่านเคยบอกว่าการเมืองยุ่งเหยิง แตกแยกไม่มีเสถียรภาพส่งผลให้ท่านเองทำงานไม่ได้ เพราะรัฐบาลอ่อนแอแก้ปัญหาไม่ได้ ระบบราชการก็เดี้ยง มาโผล่ที่สภาด่ากันให้ร่ำ นับองค์ประชุมไม่พอ รัฐบาลแย่ พวกสันหลังยาว ชาวบ้านปวดใจ เรื่องนับองค์ประชุมเป็นระบอบวัฒนธรรมของระบอบรัฐสภา มีทั่วโลก เมื่อฝ่ายค้านมีน้อยกว่าทำอะไรไม่ได้ก็ใช้วิธีนับองค์ฯ ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหา เหมือนแต่หยอกกันเล่น แต่วันนี้นับเมื่อไหร่ก็ล่มทุกที เพราะพวกท่านบริหารไม่ได้ ไม่มาประชุมกันเอง หนีกันไป 20 กว่าคน และก็ฝังตัวรอเล่นกันอีกเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่านัยแล้วล่มมาด่าพวกตน นี่เรียกว่ากรรม
นายสุทิน อภิปรายอีกว่า สำหรับเรื่องเหมืองทองอัคราเราเป็นห่วงว่าเมื่อไหร่จะจบและจบแบบใด สุดท้ายมาได้ข่าวว่าเขาได้สัมปทานเพิ่ม ความเป็น ส.ส.ก็ห่วงจึงเอามาถาม เมื่อถามแล้วก็ลุกเป็นฟื้นเป็นไฟ แต่ฟังไปฟังมาก็มีพิรุธ และบริษัทคิงเกตไปบอกผู้ถือหุ้นว่าเราจะได้สัมปทานเพิ่มแล้วนะ จากการตรวจสอบก็พบพิรุธ เราไม่ได้บอกว่าท่านปิดผิด เพราะชาวบ้านก็เดือดร้อน แต่ผิดที่ไปใช้มาตรา 44 เท่านั้น ควรใช้วิธีที่ฉลาดและกฎหมายที่โลกไม่ยอมรับ เราพลาดตรงไม่เอาเรื่องสิ่งแวดล้อมไปบอกเขา ถ้าแพ้นายกฯก็จ่าย จะเอาเงินแผ่นดินไปจ่ายไม่ได้ เราเสียค่าปรับยังเสียหายน้อยกว่าเอาสัมปทานใหม่ให้เขาเพิ่ม ส่วนเรื่องหมูแพงสะเทือนใจมาก พอหมูตายมากทำให้ราคาแพงขึ้น และคนเลี้ยงหมูรายย่อยจะสูญพันธุ์ ทำไมรัฐปกปิดข้อมูลตั้งแต่กรมปศุสัตว์ หรือเพราะต้องการให้ทุนใหญ่ได้ประโยชน์ ตนแนะนำส.ส.ที่อภิปรายเรื่องนี้ยื่นฟ้องกรมปศุสัตว์ที่มีการเบิกเงินไปตั้งแต่ปี 62-63 แต่ยังกลับบอกว่าไม่รู้ว่ามีโรค ถามว่าแล้วตอนนั้นเบิกเงินไปทำไม ที่รัฐมนตรีบอกว่าที่หมูแพงเพราะกลไกการตลาดบิดเบือน อยากรู้จังว่าใครเป็นคนปั่นราคาตลาดหมู วันนี้วัวหายมาล้อมคอกยังบอกว่าเป็นผลงาน แทนที่จะทำงานเชิงรุก ที่หมูราคาลงตอนนี้เพราะไปเจอที่กักตุนไว้ในห้องเย็น ซึ่งเป็นผลงานของคนทางไกลที่บอกว่าให้ไปดูและก็เจอจริงๆ ถ้าเก่งจริงท่านต้องอย่าให้มีการกักตุนตั้งแต่ทีแรก และได้ข่าวว่าแอบเอาหมูต่างประเทศเข้ามา
นายสุทิน อภิปรายว่า หากเจอปัญหา อยากให้นายกฯยอมรับความจริงและฟังคนอื่นมากขึ้น ขอให้เปิดใจ แต่ท่านมักปฏิเสธและไม่ฟังคนอื่นด้วย แต่ฟังคนเขียนสคลิปให้ ดังนั้นขออนุญาตให้มีที่นั่งคนเขียนสคลิป1 ที่นั่งบนบังลังก์ ขณะที่เรื่องวาดาเป็นความปิติที่น่าสังเวช ที่นักกีฬาชนะกลับไม่ได้ร้องเพลงชาติ และอยากให้ทบทวนการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ เน้นแต่แจก แต่ตนขอบอกว่าขอให้แจกต่อไปเถอะ แต่ต่างประเทศเขาแจกให้ลงทุน ไม่ได้แจกให้กินอย่างเดียว แต่ต้องกระตุ้นการสร้างงาน พวกตนไม่ยกเลิกแต่จะแจกเพื่อให้ทำงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แนะนำให้มีโช้คอัพหรือกันชนทางเศรษฐกิจบ้าง เพื่อไม่ให้กระแทกชาวบ้านโดยตรง ควรสร้างภูมิคุ้มกัน แต่นี่ไม่มีเลย นายกฯประกาศเท่ว่า ปี 65 จะเป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน แต่หลักการแก้หนี้คือต้องเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย หากตราบใดไม่ทำสองอย่างนี้ก็แก้ไม่ได้ นอกจากย้ายหนี้ ทุกอย่างสวนทางกับที่นายกฯบอก ชาวบ้านอาจจะดีใจ แต่ถ้าตราบใดรายรับน้อยลงเรื่อยๆและรายจ่ายสูงขึ้นเรื่อยๆหนี้จะบาน ซึ่งเรื่องคริปโตทั่วโลกทำเงินกัน แต่รัฐบาลไม่ส่งเสริมแล้วยังจ้องเก็บภาษีหารายได้ รวมถึงภาษีโรงเรือน ดังนั้น ท่านต้องหารายได้เพิ่ม ไม่ใช่มาเก็บภาษีชาวบ้าน รวมทั้งขอแนะนำว่าให้ใช้งบประมาณให้เป็นประโยชน์ งบกลางซื้ออาวุธซื้อเรือดำน้ำขอให้เลิก โดยสถาบันจัดลำดับนนานาชาติ หรือทีไอ บอกว่าการทุจริตมากขึ้นเรื่อยๆ และต้องปฏิรูปการเมือง ระบบราชการ ไม่เช่นนั้น นำประเทศผ่าวิกฤตไม่ได้ เลือกตั้งกลับมาคราวหน้าสภาฯหนักกว่าแบบนี้เอง ประเทศเดี้ยง และสิ่งที่จะขอคือขอให้ท่านทบทวนตัวเอง จะเอาชนะกับใครก็ตาม โดยเอาคน 65 ล้านชีวิตเป็นตัวประกัน ใจคอจะไม่ยอมปลดปล่อยชาวบ้านออกจากอุ้มมือเลยหรือ ต้องยอมเสียสละยุบสภาฯ วันนี้คุณภาพเด็กไทยตกต่ำลงทุกด้าน ถ้าท่านไม่ออกคนจนวันนี้จะพุ่งขึ้นมา และเป็นคนจนเฉียบพลัน พัฒนาเป็นจนเรื้อรัง เพราะความเหลื่อมล้ำที่ปกคลุมมา 2 ปี ทุนใหญ่ไม่กี่ตระกูลไปยึดอาชีพเขาหมดแล้ว จนกลายเป็นจนถาวร
“ไม่ใช่อยู่ๆ เรามาบอกให้นายกฯออก แต่เราเสนอแนะทุกข้อแล้ว นายกฯออกมาบอกหน่อยจะรับหรือไม่ ถ้าอุดรอยรั่วไม่ได้ก็เปลี่ยนเรือเลย หน้าที่ไล่นายกฯเป็นหน้าที่ของพวกผม ไล่ในสภาฯดีกว่าไปไล่ที่อื่น พวกผมใช้มาตรา 152 พูดจาด้วยเหตุผล สภาฯคือเงาสะท้อนของประชาชน เมื่อประชาชนร้อนที่นี่ก็ต้องเดือด ประชาชนร้องไห้ที่นี่จะมาจ๊ะจ๋าได้อย่างไร นี่คือ ความงามของสภา ท่านต้องเข้าใจว่าผู้แทนได้รับแรงกดดันมา ถ้าผมพูดเท็จชาวบ้านก็จะว่าตอแหล ไปไหนเขาก็บอกว่าให้เอานายกฯออกให้หน่อย เราจะไปพร้อมกันก็ได้ ยุบสภาเลย ไม่ใช่ไล่ท่านอย่างเดียว กฎหมายลูกทำทันแน่นอน เราไปพร้อมกัน จะได้เป็นธรรม” นายสุทิน กล่าว