“อุเทน” ลุยฟ้อง “บอร์ด-เลขาฯ คปภ.” ปล่อยขายประกัน “เจอ จ่าย จบ” พร้อมขอศาลสั่งกรมธรรม์เป็นโมฆะ

“อุเทน” เผยฟ้องศาล ปค.เอาผิด “บอร์ด คปภ.-เลขาธิการ คปภ.” ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ กรณีอนุมัติขายประกัน “เจอ จ่าย จบ” ที่เข้าข่ายการพนัน-ผิด กม. ส่งผล บ.ประกันเจ๊ง-ปชช.เสียหาย เชื่อทำคนถือกรมธรรม์หาเรื่องติดเชื้อเอาประกัน จนยอดป่วยพุ่ง

วันนี้ (13 ก.พ.65) นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) และเลขาธิการ คปภ. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ต่อศาลปกครองกลาง ในฐานะมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแล กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวปฏิบัติในการประกอบธุรกิจประกันภัย กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความเห็นชอบการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 2550 แต่ได้อนุมัติให้มีการขายกรมธรรม์ “เจอ จ่าย จบ” ที่มีลักษณะเป็นการพนัน และผิดกฎหมาย และถือเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

“บอร์ด คปภ. และเลขาธิการ คปภ. ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย อันเป็นการจงใจกระทำผิดต่อกฏหมาย และหรือละเว้นไม่ให้อำนาจตามกฎหมายทำให้ผมซึ่งเป็นประชาชนผู้เอาประกันภัยประเกทอื่นๆ รวมถึงประชาชนทั่วไปเสียหาย และขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมธรรม์ประเภทเจอ จ่าย จบ เป็นโมนะ เนื่องจากมีลักษณะเป็นการเล่นพนัน และขอศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้บอร์ด คปภ. และเลขาธิการ คปภ.มีคำสั่งให้บริษัทประกันยกเลิกกรมรรรม์เจ็บ จ่าย จบ ด้วย” นายอุเทน กล่าว

นายอุเทน กล่าวต่อว่า ในคำฟ้องได้ระบุถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ปรากฏว่า ภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยในประเทศไทยเห็นโอกาลที่จะออกกรมธรรม์คุ้มครองกรณีเจ็บป่วยจากไวรัสโควิด-19 จึงได้ออกกรมธรรม์เรียกว่า “เจอ จ่าย จบ” ซึ่งหมายความว่า หากผู้เอาประกันตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิค-19 บริษัทประกันจะจ่ายเงินตามความคุ้มครองให้ทันที โดยคิดเบี้ยประกันภัยในราคาถูกประมาณ 500-1,000 บาท มีความคุ้มครอง จำนวน 50,000-100,000 บาท ซึ่งกรมธรรม์ประกันสุขภาพประเภทเจอ จ่าย จบ มีลักษณะที่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่การประกันภัยตามกฎหมาย แต่เป็นลักษณะของการพนัน หรือการซื้อสลาก

“การที่ผู้เอาประกันจ่ายเงินจำนวนเล็กน้อย เพื่อที่จะได้รับเงินจำนวนหลายเท่าเป็นการพนันเอาสินพนัน อีกทั้งการคิดคำนวณค่าเบี้ยประกันไม่เป็นไปหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระไม่สอดคล้องกันความคุ้มครองที่จะได้รับจากกรมธรรม์ ทั้งนี้การดิดคำนวณเบี้ยประกันภัยต้องไม่มาก หรือน้อยเกินไป เนื่องจากหากเบี้ยประกันภัยที่ชำระเป็นจำนวนน้อยแต่ได้รับความคุ้มครองมากเกินไปย่อมไม่ต่างกับการพนันที่ผู้เล่นพนันแทงพนันเพียจำนวนน้อย และหากแทงถูกก็จะได้รับ
เงินตอบแทนจำนวนหลายเท่าตัว” นายอุเทน กล่าว

นายอุเทน กล่าวอีกว่า คปภ.และเลขาธิการ คปภ.เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลบริษัทประกันภัย จึงต้องกำกับดูแล และห้ามไม่ให้มีการออกกรมธรรรม์ในลักษณะดังกล่าว แต่กลับส่งเสริมสนันสนุนบริษัทประกันกัยให้เสนอขายกรมธรรม์เจอ จ่าย จบ ต่อประชาชน หรือเมื่อทราบว่าบริษัทประกันต่างได้เสนอขายกรมธรรม์ดังกล่าว ก็ไม่ออกคำสั่งห้ามหรือยกเลิกการขายกรมธรรม์ดังกล่าวแต่อย่างใด จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ทั้งที่ต้องออกคำสั่งนายทะเมียนห้ามไม่ให้บริษัทประกันเสนอขายกรมธรรมเช่นนี้

นายอุเทน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ผลกระทบของการขายกรมธรรม์เจอ จ่าย จบ ส่งผลให้บริษัทประกันต้องชำระเงินจำนวนมากให้กับผู้เอาประกันที่ติดเชื้อ ทำให้บริษัทประกันต้องประสบสภาวะขาดทุนหรือขาดสภาพคล่อง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างเป็นลูกโซ่ ทำให้ขณะนี้บริษัทประกันไม่มีเงินชำระให้กับผู้เอาประกันประเกทอื่นๆที่เรียกร้องค่าสินไหมเช่น ประกันชีวิต ประกันอัคคีภัย และประกันภัยรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งกระทบต่อผู้เอาประกันทั้งระบบประกันภัยของประเทศ รวมถึงตนที่เป็นผู้เอาประกันกัยประเภทอื่นอาจต้องเสียหาย หาก
ตนจะเบิกจ่ายค่าสินไหมจากบริษัทประกันแต่บริษัทประกันต้องปิดตัวลง หรือไม่มีเงินพอชำระให้กับตน

“ประกันเจอ จ่าย จบ ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้เอาประกันที่ไม่สุจริตต้องการให้ตนเองติดเชื้อโดยการเข้าไปเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือไม่ยอมฉีควัคซีน เพื่อต้องการให้ตนเองติดเชื้อ และจะได้เบิกเงินจากกรมธรรม์ได้ โดยผู้ติดเชื้อจะได้รับเงินจากกรมธรรม์ไปเปล่าๆ เพราะค่ารักษาพยาบาล
ต่างๆ รัฐก็ต้องเป็นผู้ชำระทั้งสิ้น อันส่งผลให้รัฐต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย” นายอุเทน ระบุ.