วันนี้(11 ก.พ.)พรรคแนวทางใหม่ จัดประชุมเพื่อตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสงขลา ที่โรงแรมบุรีศรีภู อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายธวเดช ภาจิตรภิรมย์ หัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้นอกจากเป็นการประชุมจัดเพื่อตั้งตัวแทนประจำจังหวัดสงขลาแล้ว ยังเป็นวันที่รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาบอกเล่าเจตนารมณ์ การก่อตั้งพรรคแนวทางใหม่ให้พี่น้องหาดใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนได้รับฟัง เชื่อมั่นว่าตัวแทนของพรรคแนวทางใหม่จะได้รับความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งเพื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรอย่างแน่นอน
“ผมเกิดและเติบโตที่นี่ หาดใหญ่แห่งนี้ คือสถานที่หลอมรวมทางความคิดของเพื่อนๆ พี่่ๆ น้องๆ ที่มองเห็นทั้งศักยภาพและอุปสรรคที่ฉุดรั้งบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ก่อนเกิดพรรคแนวทางใหม่ พวกเราพูดคุยกันถึงปัจจุบันและอนาคตของหาดใหญ่ค่อนข้างมาก เราคุยกันด้วยความรู้สึกผูกพัน เราคุยกันด้วยความรู้สึกรักและอบอุ่น เราคุยกันด้วยความหวัง ที่นี่จึงกลายเป็นประกายเริ่มต้นให้ผมอยากทำงานการเมือง เพราะการจะเปลี่ยนแปลงเพื่อปลดปล่อยศักยภาพของหาดใหญ่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะต้องมีพลังทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นปัจจัยสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้”
นายธวเดช ยังกล่าวอีกว่า ตนและผู้มาร่วมประชุมในวันนี้ล้วนเคยผ่านช่วงเวลาที่หาดใหญ่เป็นเมืองเศรษฐกิจของภาคใต้มาแล้ว หากนับย้อนไปราว 15 ปีที่ผ่านมา หาดใหญ่สามารถสร้างเม็ดเงินได้ไม่น้อยกว่าพันล้านบาทต่อปี รองรับงานและอาชีพให้คนภาคใต้ได้มากมาย แต่ปัจจุบันเดินไปไหนก็เจอ แต่ห้องแถวตึกร้างปล่อยเซ้งปล่อยขายเต็มไปหมด บ้านบางหลังเหลือแต่คนแก่ เด็กๆลูกหลานล้วนออกไปแสวงหาอนาคตหรือไปดิ้นรนเอาตัวรอดข้างนอกกันหมด
“คำถามสำคัญที่สะกิดหัวใจของผมเหลือเกินว่าเกิดอะไรกับบ้านของเรา ทำไมบ้านของเราจึงไม่สามารถตอบสนองอนาคตของลูกหลานหรือกระทั่งตัวเราเองได้เหมือนในอดีต แต่เมื่อพรรคแนวทางใหม่เกิดขึ้นจากตรงนี้ เริ่มต้นจากตรงนี้ เราจะไม่ปล่อยผ่านปัญหาของเราไป ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยพลังความคิดและการลงมือทำของพวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ หลังจากวันนี้ไปพวกเราจะสามารถพลิกฟื้นหาดใหญ่ ให้กลับมายิ่งใหญ่ กลับมาเป็นหัวเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจของภาคใต้ได้อีกครั้ง เรายังมีสถาบันการศึกษาที่เข้มแข็งตั้งแต่ระดับปฐมวัย มีโรงเรียนประถม มัธยม มีสถาบันอาชีวะศึกษา ไปจนถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ หมายความว่า เรายังมีศักยภาพที่สำคัญที่สุดอยู่ในบ้านของเราเอง เพียงแต่เราจะเติมสิ่งใดเข้าไปให้ศักยภาพเหล่านี้แสดงออกมามากที่สุดในพื้นที่ที่เขาเติบโตขึ้นมา”
ทั้งนี้ นายธวเดช กล่าวว่า สิ่งที่พรรคแนวทางใหม่จะขับเคลื่อนคือ การสนับสนุนการศึกษาให้สอดคล้องกับพื้นที่ ต้องมีการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ดีในทุกด้าน เพื่อดูแลคนหาดใหญ่ทุกคนอย่างถ้วนหน้าไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องมีระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อกันทั้งในเมืองและรอบเมืองเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และที่สำคัญที่สุดคือ เราจะต้องมีอำนาจในการปกครองและจัดการท้องถิ่นด้วยตัวเอง เพราะคงไม่มีใครทำเรื่องของเราได้ดีที่สุด เท่ากับคนหาดใหญ่ทำด้วยตัวของเราเอง นี่คือเหตุผลในการตั้งพรรคแนวทางใหม่
“เราจะผลักดันกฎหมายว่าด้วยการกระจายอำนาจอย่างสุดกำลังที่เรามี เราจะผลักดันการใช้งบประมาณที่เอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เอาแต่ปั้นโครงการใหญ่โต เพื่อหวังฟันหัวคิวแต่ประชาชนอดอยากแร้นแค้นมองไม่เห็นอนาคตดังปัจจุบัน ผมคิดว่าเราคงปล่อยให้ประเทศเราเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกต่อไป เงินคนแก่เดือนละ 600 บาท กี่ปีแล้วก็ยังอยู่แค่นั้น ผมถามจริงๆว่าพวกท่านอยู่ไหวหรือครับ เงินเท่านี้ คนหาดใหญ่และคนไทยทุกคนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ ด้วยเสียงของเรา หากพรรคแนวทางใหม่อยู่ในสภา มือของเราจะชูขึ้น เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชน เงินคนแก่เดือนละ 3,000 บาท เพื่อเป็นบำนาญตอบแทนที่พวกท่านทำงานหนักมาทั้งชีวิตในวัยแรงงาน จะต้องผ่านสภาให้ได้ ลูกหลานของเราจะต้องได้เรียนฟรี มีเงินเดือนระหว่างเรียน เพื่อลดภาระผู้ปกครอง เหมือนหลายประเทศที่เดินหน้าเรื่องนี้ไปแล้ว เรากำลังลงทุนเพื่อสร้างอนาคต บางท่านอาจสงสัยว่า จะเอาเงินมาจากไหน ขอยืนยันว่า งบประมาณเพื่อทำสิ่งเหล่านี้เป็นไปได้และมีเพียงพออย่างแน่นอน หากมีการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสม ไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือใช้ในโครงการไม่เกิดประโยชน์เพียงเพื่อทำโครงการใหญ่ไว้รอกินหัวคิวเท่านั้น พรรคแนวทางใหม่จะเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อเปลี่ยนประเทศเพื่ออนาคตที่ดีกว่า การที่ขอมาเริ่มต้นประกาศเจตนารมณ์ที่หาดใหญ่บ้านเกิดของตัวเอง เพื่อสัญญาต่อทุกคนว่า วันนี้ผมพร้อมแล้วในการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่า เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เราไม่ได้มาเล่นๆ แต่เราเอาจริงแน่นอน ผมพร้อมที่จะส่งตัวแทนลงเลือกตั้งทั่วประเทศ และหาดใหญ่แห่งนี้ จะเป็นประตูบานแรกไปสู้ชัยชนะทางการเมืองของพวกเราทุกคน”