เปิดหนังสือ “อนุทิน-พิพัฒน์” ลาประชุม ครม. ค้านแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน รถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามข้อเสนอของ กทม.
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเอกสาร ที่ นร.0403(กร 3)/1861 ลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของกรุงเทพมหานคร ตามความเห็นและเหตุผลของกระทรวงคมนาคม โดยมีรายละเอียดดังนี้
ตามที่ สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งเชิญประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 6/2565 ในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทําเนียบรัฐบาล โดยมีระเบียบวาระการประชุมตามอ้างถึง นั้น
อ้างตามวาระเรื่องเพื่อพิจารณา ลําดับที่ 3 เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบ ร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอเรียนว่า ไม่เห็นด้วยกับการดําเนินการของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตามความเห็นและเหตุผลของกระทรวงคมนาคมตามหนังสือกระทรวงคมนาคม ด่วนที่สุด ที่ กค (ปคร) 0208/24วันที่ 7 กุมภาพันธ์2565 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ทั้งนี้ ยังพบด้วยว่า หนังสือลาประชุมของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มีการยื่นจดหมายถึง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยระบุอย่างชัดเจน ว่า ในวาระเพื่อพิจารณา ลำดับที่ 3 เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้บรรจุในวาระแล้วนั้น มีความเห็นตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ตามหนังสือที่ คค.(ปคร.) 0208/28 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้
เรื่อง ขอลาการประชุมคณะรัฐมนตรี (วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565)
เรียน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ตามที่สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้กําหนดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก กระผมขอลาการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันดังกล่าว
อนึ่ง วาระเพื่อพิจารณา ลําดับที่ 3 เรื่อง ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญา ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้บรรจุในวาระแล้วนั้น ผมมีความเห็น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ตามหนังสือที่ คค (ปคร) 0208/28วันที่ 7 กุมภาพันธ์
จึงเรียนมาเพื่อโปรดนําเสนอนายกรัฐมนตรีทราบ