รมว.สธ. พบผู้ป่วย ถกเริ่มต้น “ฟอกไตฟรี” ย้ำ เป็นนโยบายยั่งยืน ขอบคุณบอร์ด สปสช. ช่วยผลักดัน เริ่มดำเนินการ 1 ก.พ. ฝาก ปชช.ร่วมกันบริจาคอวัยวะต่อชีวิตให้อีกคน
วันนี้ (28 มกราคม 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และนายธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันหารือเพื่อเดินหน้าโครงการ “เพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เลือกวิธีฟอกไตได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย” ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
นายอนุทิน กล่าวว่า ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ตนได้มีโอกาสลงพื้นที่ ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของสถานพยาบาลทั่วประเทศ ได้รับฟังปัญหาของผู้ป่วยฟอกไตสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ที่แม้หลายคนจะได้สิทธิในการรักษาผ่านการล้างไตทางช่องท้อง ขณะที่บางคนได้ฟอกเลือดผ่านเครื่องไต เทียม กรณีที่เข้าเงื่อนไขการรักษา
แต่มีผู้ป่วยจำนวนมาก เลือกวิธีฟอกไต และต้องจ่ายเงินค่าฟอกไตครั้งละ 1,500 บาท เนื่องจากไม่ต้องการล้างไตผ่านช่องท้องตามหลักเกณฑ์กองทุนบัตรทอง แต่ก็ไม่เข้าเงื่อนไขในการฟอกเลือด ซึ่งการที่ต้องมารับการรักษาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง และมีค่าใช้จ่ายอาทิตย์ละ 5 พันบาท เป็นเรื่องที่สาหัสสำหรับประชาชนมาก
จึงนำมาหารือกับ สปสช. ซึ่งได้รับการสนับสนุนหาทางช่วยเหลือเป็นอย่างดี กระทั่งบอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบให้มีนโยบายนี้ขึ้นมา เพื่อเพิ่มทางเลือกการรักษาพยาบาลให้กับประชาชน ขอขอบคุณทุกท่านมากที่ช่วยกันผลักดันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย แน่นอน เรื่องนี้ เราจะผลักดันให้เป็นนโยบายที่ถาวร เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน
“สิ่งอยากจะบอก คือ การรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ดีมาก คือ การได้ไตใหม่ ตรงนั้น ต้องขอความร่วมมือให้ประชาชน ช่วยกันบริจาคอวัยวะให้มาก เพราะถือว่าเป็นการรักษาชีวิตของอีกคนหนึ่งเอาไว้ กระบวนการยินยอมบริจาคอวัยวะ ปัจจุบันมีความสะดวกมาก ตรงนี้ ผมขอฝากประชาสัมพันธ์ ล่าสุด ผมก็เพิ่งบินไปรับอวัยวะมาช่วยรักษาผู้ป่วย อวัยของผู้ที่เสียชีวิต ทำให้ อีกหลายคน ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป”
นายธนพลธ์ กล่าวว่า ในนามตัวแทนผู้ป่วยไตวายเรื้อรังขอขอบคุณ รมว.สาธารณสุข และบอร์ด สปสช. ที่คำนึงถึงผู้ป่วยโรคไต นำมาสู่มติบอร์ด สปสช.นี้ ซึ่งการเปิดให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางและมีส่วนร่วมกับแพทย์ในการตัดสินใจเลือกวิธีการบำบัดไต รวมถึงยกเลิกเก็บค่าบริการฟอกเลือดนั้น นอกเป็นการลดภาระให้กับผู้ป่วยแล้ว ยังลดความเดือนร้อนให้กับผู้ป่วยและครอบครัวได้ เนื่องผู้ป่วยต้องรับบริการฟอกไต 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
รวมเป็นค่าใช้จ่ายเกือบ 20,000 บาทต่อเดือน เป็นค่าใช้จ่ายสูงมากโดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ อย่างไรก็ตามมีสิ่งที่กังวลและฝากติดตามคือความเพียงพอของหน่วยฟอกไตเทียมและบุคลากรในการให้บริการ ทั้งนี้ ทางสมาคม พร้อมให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนนโยบายข้างต้น และเชื่อมั่นว่า ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. ได้มีการเตรียมความพร้อมของระบบ เพื่อให้งานบริการเกิดความราบรื่น และมีประสิทธิภาพที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นโยบายดังกล่าว มีเป้าหมาย ให้ผู้ป่วยร่วมตัดสินใจเลือกวิธีล้างไตกับแพทย์ที่คํานึงถึงเศรษฐานะ พยาธิสภาพของโรค ปัจจัยทางสังคม และความเหมาะสม ปัจจุบันมีผู้ป่วยฟอกไต 30,802 ราย ในจำนวนนี้ 6,546 ราย เป็นกลุ่มที่ไม่สมัครใจล้างไตทางช่องท้องแล้วเลือกจ่ายเงินเองฟอกไตเอง ส่วนผู้ป่วยล้างไตทางหน้าท้องมี 32,892 ราย ในจำนวนนี้มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้วิธีฟอกไตประมาณ 5,000 ราย
