xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กป้อม" ติดตามสถานการณ์น้ำฤดูแล้งลุ่มน้ำเจ้าพระยาย้ำ!!แล้งนี้น้ำอุปโภคบริโภคต้องไม่ขาดแคลน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"บิ๊กป้อม" ติดตามสถานการณ์น้ำฤดูแล้งลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมเร่งรัดกรมชลฯดำเนินการโครงการในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ปชช.ในพื้นที่ให้มากที่สุด

วันนี้ (25 ม.ค.65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามมาตรการรองรับสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 และแผนบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในเขตพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา โดยมี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ อาคารศูนย์เรียนรู้และพัฒนาการท่องเที่ยว อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (25 ม.ค.65) 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,252 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 6,556 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 2,485 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณที่มีอย่างจำกัดจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเคร่งครัดให้เป็นไปตามแผน เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภคต้องไม่ขาดแคลน สำหรับผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2564/65 ทั้งประเทศเพาะปลูกข้าวไปแล้ว 5.36 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 83 ของแผนฯ เฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เพาะปลูกไปแล้ว 3.63 ล้านไร่ เกินแผนที่วางไว้ (แผนวางไว้ 2.81 ล้านไร่)

ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์น้อย ประกอบกับปัจจุบันมีการเพาะปลูกเกินแผนที่กำหนด จึงได้กำชับให้โครงการชลประทานโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา บริหารจัดการน้ำด้วยการหมุนเวียนน้ำในพื้นที่ให้ทั่วถึง เพื่อไม่ให้พื้นที่ที่เพาะปลูกแล้วเกิดความเสียหาย ด้านการเพาะปลูกพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้ควบคุมการเพาะปลูกให้เป็นไปตามแผน รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2564/65 ทั้ง 8 มาตรการอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญให้ทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำ และแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ รณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดทรัพยากรน้ำ เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้

นอกจากนี้ กรมชลประทาน มีแผนดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำและแก้มลิงเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ได้แก่ โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำ ตำบลประศุก อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นเครื่องแบบ Vertical Pump อัตราการสูบ 1.50 ลบ.ม./วินาที จำนวน 3 เครื่อง และเครื่องแบบ Sumersible Pump อัตราการสูบ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 2 เครื่อง มีพื้นที่รับประโยชน์ 3,000 ไร่ โดยจะสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเติมเข้าระบบชลประทานและรักษาระบบนิเวศในลำน้ำแม่ลา

โครงการแก้มลิงหนองอ้อ พร้อมอาคารประกอบ ตำบลทองเอน อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เก็บกักน้ำได้ประมาณ 2 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์ 3,500 ไร่ ในเขตตำบลทองเอน ตำบลท่างาม และตำบลงิ้วลาย และโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ตำบลหัวป่า อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ประกอบด้วยเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง อัตราการสูบเครื่องละ  0.30 ลบ.ม./วินาที พร้อมท่อส่งน้ำ ยาว 426 เมตร ส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์ 1,400 ไร่ 

ในการนี้ พล.อ.ประวิตรฯ ได้ทำพิธีเปิดใช้โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าตำบลหัวป่า ซึ่งดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว พร้อมเร่งรัดให้กรมชลประทานดำเนินการโครงการต่าง ๆ ในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุดต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น