ส.ส.ภท. แนะ ป.ป.ส. อย่าตีความขัด กม.ยาเสพติดปี 64 ยันตัดกัญชาออกบัญชียาเสพติด ตั้งแต่ 29 ธ.ค. 64 ซัดอย่าจ้องจับชาวบ้านจนๆ ปลูก 1-2 ต้น ควรหนุนเป็นพืชเศรษฐกิจ
วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงข่าวถึงกรณีที่ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ส. ระบุ การปลูกกัญชาเองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 นั้น อ้างไปถึง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลยาเสพติดให้โทษ มาตรา 8 ว่า หากกฎหมายที่ประกาศ แต่ยังไม่ถูกยกเลิกไปถือว่ายังใช้ได้อยู่ แต่ท่านไม่ได้บอกด้วย คือ การตีความในหลักกฎหมายต้องไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมายในปัจจุบัน ซึ่งคือประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2564 ในมาตรา 29 ที่บอกว่ายาเสพติดมีอะไรบ้าง เดิมมีกัญชารวมอยู่ด้วย แต่ในกฎหมายฉบับดังกล่าว ไม่ได้บอกว่า กัญชาเป็นยาเสพติด และไม่มีถ้อยคำใดที่บอกว่า หากปลูกกัญชาแล้วมีความผิด
“ถ้าเรามองหลักกฎหมายเดียวกัน ไม่ควรทำอะไรที่เป็นอุปสรรค พรรคภูมิใจไทยพูดอยู่เสมอว่า อยากให้ลดอำนาจรัฐเพื่อปากท้องประชาชน เราควรมาช่วยกันทำเรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ทางด้านเศรษฐกิจ ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหากับทาง ป.ป.ส. แต่ถ้ายังมีการเดินหน้าจับคนที่ปลูกกัญชากัน คนละ 1-2 ต้น คนที่ถูกจับล้วนเป็นคนจน ที่ปลูกก็เพื่อทางการแพทย์ เพื่อการรักษาเท่านั้น แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ยังเดินหน้าไปจับ พรรคภูมิใจไทยเราก็พร้อมเป็นทนายความต่อสู้ให้กับผู้ที่ถูกจับ ท่านไม่มีสิทธิไปจับ ขอให้ตีความทางกฎหมายโดยเคร่งครัด ตามเจตนารมณ์กฎหมาย” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอฝากไปยังหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมได้หารือกันว่าจะมีแนวทางในการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร และขอวอนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และขอให้ช่วยสนับสนุนให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นคืนกลับมาโดยเร็ว