"สมศักดิ์" ลุยสุโขทัยรับฟังปัญหาชาวบ้าน รุดลงพื้นที่สำรวจโครงการสร้างประตูระบายน้ำ ช่วยผันน้ำเข้า YN3 ให้ชลประทานเร่งสำรวจ-ประสานหน่วยงานศึกษาให้ละเอียด ชี้ช่วยลดภัยแล้ง-น้ำท่วมพื้นที่เกษตรครอบคลุม 13 ตำบล 1.3 หมื่นไร่
วันนี้ (10 ม.ค.64) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ อบต.วังลึก อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่หารือและรับฟังความคิดเห็นประชาชน โดยมี นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย, นายอำเภอศรีสำโรง, เจ้าหน้าที่จาก อบจ.สุโขทัย, กรมชลประทาน, นายก อบต.วังลึก, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนร่วมการหารือ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันกลุ่ม 3 จังหวัด สุโขทัย, กำแพงเพชร และตาก สิ่งที่ตนได้คิดและเสนอให้กับครม.คือการแก้ปัญหาความยากจน และตนได้เร่งแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากจะทำอะไรให้ประชุมรับฟังความเห็นจากคนในพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์โควิด-19 หลายโครงการจึงชะลอ แต่เรายังผลักดันและดำเนินการอยู่ การแก้ปัญหาความยากจน ต้องคิดให้มาก โดยการนำอาชีพของคนในจังหวัดมาดู หากอาชีพไหนทำได้มีกำไรก็ทำต่อ อาชีพไหนยังมีน้อยก็ส่งเสริม หากอาชีพไหนทำแล้วกำไรน้อยเป็นหนี้ก็ต้องลดลง
“ช่วงนี้รัฐบาลให้ทำงาน และติดตามงานในระบบออนไลน์ ผมมีโอกาสกลับมาบ้านที่ จ.สุโขทัย จึงอยากมาสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของคนในพื้นที่ว่ามีอะไรบ้าง”
จากนั้นที่ประชุมได้เสนอแนะถึงปัญหา เนื่องจากคนในพื้นที่มีการทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์จำนวนมาก แต่ยังมีปัยหาการขาดแคลนน้ำในหน้าแล้ง และปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดทำโครงการระบายน้ำ YN3 เชื่อมระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม โดยขณะนี้มีการสำรวจการสร้างประตูระบายน้ำในพื้นที่บ้านเกาะไม้แดง เพื่อให้สามารถผลัดดันน้ำเข้าสู่คลอง YN3 ได้
ต่อมาภายหลังจากการประชุม นายสมศักดิ์ และคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเกาะไม้แดง ต.วังลึก เพื่อไปสำรวจพื้นที่ที่จะทำการก่อสร้างประตูระบายน้ำทันที โดยนายสมศักดิ์ ระบุว่า การมาดูในวันนี้เพราะอยากให้ชาวบ้านในพื้นที่มีน้ำใช้ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ในการก่อสร้างจุดนี้ตรงขอให้กรมชลประทานสำรวจระดับท้องคลองว่า มีความลึกเพียงใด เพื่อให้การทำประตูระบายน้ำเกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อให้ดันน้ำเข้าสู่คลอง YN3 ได้ รวมถึงประสานกับหน่วยงานของ จ.พิษณุโลก สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับชาวบ้านเพื่อให้งานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“โครงการนี้ทำให้ประชาชนใน 10 ตำบลของ จ.พิษณุโลก และ 3 ตำบลของ จ.สุโขทัย ซึ่งกินพื้นที่กว่า 13,000 ไร่ได้รับประโยชน์ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันรณรงค์ ต้องศึกษาให้รู้ นอกจากนี้การบริหารจัดการน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ต้องพัฒนาการปลูกพืชให้เหมาะสมด้วย” นายสมศักดิ์ ระบุ.