xs
xsm
sm
md
lg

ปลัดพลังงาน “กุลิศ” จะงานเข้า เพราะ “กูเกิล”?? **“พัลลภ” ทิ้งบอมบ์โดน “แม้ว” สั่งปลดพ้นพรรค พท.แถมเล่าความหลังเคยช่วยชีวิต “บิ๊กตู่” แต่ได้รับการตอบแทนแสนเจ็บปวด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ปลัดพลังงาน “กุลิศ” จะงานเข้า เพราะ “กูเกิล”??

วันว่างช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ของ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ดูจะไม่เหมือนใคร เมื่อเจ้าตัวออกมาบอกว่า ไม่ได้ไปไหน ประกอบกับพอดีเห็นว่า ป.ป.ช.ให้ข่าวเรื่องตรวจสอบนาฬิกา และกระเป๋าถือ เลขาธิการ กบข. เลยนั่งตรวจสอบและเก็บข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สินจากเว็บไซต์ ป.ป.ช.ของเจ้าหน้าที่รัฐหลายร้อยราย เช่น ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าฯ อธิการบดี กรรมการ เลขาธิการ ในหน่วยงานต่างๆ ซึ่งได้พบในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากอาจยื่นบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน รายได้ และเงินได้พึงประเมิน ไม่ครบถ้วน

ว่าแล้วเรดาร์การสุ่มตรวจสอบระดับ “นักร้องดัง” ก็พลันไปสะดุดตาที่ รายการบัญชีทรัพย์สินของ “กุลิศ สมบัติศิริ” ปลัดกระทรวงพลังงาน

“เรืองไกร” พบว่า “กุลิศ” ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีดำรงตำแหน่งทุกสามปี ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ว่าปัจจุบันดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน ประธานกรรมการบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยแจ้งข้อมูลรายได้ต่อปี ว่า 1. รายได้ประจำ (1) เงินเดือน จำนวน 134,524.50 บาท ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขที่ควรสงสัย เพราะอาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง ไม่น่าเชื่อว่า ปลัดกระทรวงพลังงาน จะมีเงินเดือนต่อปีเพียง 134,524.50 บาท และมีผลทำให้รายได้รวมที่แจ้งไว้ 10,032,819.48 บาท อาจต่ำตามไปด้วย

กุลิศ สมบัติศิริ
นอกจากนั้น ปลัดกระทรวงพลังงาน แจ้งรายการทรัพย์สินอื่น ทั้งของตัวเองและคู่สมรส ว่า ไม่มีรายการและมูลค่าที่แจ้งแต่อย่างใด

มาถึงจุดนี้ จากข้อมูลตามเว็บไซต์ ป.ป.ช. ดูตามหน้าสื่อก็จะเห็นตามที่ “เรืองไกร” ยกมา แต่ความ "พีก" อยู่ที่ นักร้องดัง ไม่ได้หยุดลงตรงนั้น มีคำที่พูดกันในหมู่ชาวเน็ตไว้ว่า คิดอะไรไม่ออก อยากรู้อะไรให้บอก “อากู๋” หรือ “กูเกิล” ซึ่ง เรืองไกร ก็เช่นเดียวกัน จรดนิ้วจิ้มคีย์บอร์ดเสิร์ชหาข้อมูลปลัดพลังงานเพิ่ม

ผลลัพธ์ที่ได้ “เรืองไกร” บอกว่า ข้อมูลในกูเกิล พบภาพข่าวต่างๆ ของ “กุลิศ” สวมใส่นาฬิกาหลายเรือน รวมทั้งใส่แหวนทองที่นิ้วด้วย

เขาบอกว่า กรณีนี้ คล้ายกับกรณีเลขาธิการ กบข. จึงควรขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบต่อไปว่า “กุลิศ” แจ้งรายการทรัพย์สินอื่น ทั้งของตัวเองและคู่สมรส ไว้ครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งแจ้งเงินเดือนต่อปีไว้ถูกต้องหรือไม่ โดยวันนี้ (4 มกราคม) จะส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ของปลัดกระทรวงพลังงาน ว่า ได้ยื่นรายการโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ต่อไป

 เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
งานนี้ เห็นที “ทั่นปลัดกุลิศ” นอกจากจะต้องออกแรงเคลียร์ แล้วคงเพลียหัวใจและคาดไม่ถึงกับ “นักร้อง” คนนี้ที่ใช้วิธีถามไถ่ “อากู๋” มาสืบทรัพย์ ..แบบนี้ก็ได้เหรอ.



**“พัลลภ” ทิ้งบอมบ์โดน “แม้ว” สั่งปลดพ้นพรรค พท. แถมเล่าความหลังเคยช่วยชีวิต “บิ๊กตู่” แต่ได้รับการตอบแทนแสนเจ็บปวด ถือว่าเป็นการทิ้งบอมบ์ต้อนรับปีใหม่ 2565 กันเลยทีเดียว สำหรับ “พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” คนกันเองกับ “ทักษิณ ชินวัตร” และพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาปูดว่า ถูกปลดออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว
“พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” จปร.7 รุ่นเดียวกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร, พ.อ.(พิเศษ) ประจักษ์ สว่างจิตร มีความผูกพันกับพรรคเพื่อไทย ทำงานเป็นมือเป็นไม้ให้กับ ”ทักษิณ ชินวัตร” มาก่อน เคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ ก็ยังเป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย ในลำดับที่ 34

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น ในช่วงกลางปี 2549 ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เกิดมีกรณี “คาร์บอมบ์” ย่านสะพานซังฮี้ ก็มีการโยงเอา “พล.อ.พัลลภ” เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โดยการสืบสวนของตำรวจ พบว่า รถคันดังกล่าวได้ออกจากสำนักงานใหญ่ของ กอ.รมน. ซึ่งเป็นที่ทำงานของ“พล.อ.พัลลภ” แต่ พล.อ.พัลลภ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยบอกว่า... "ถ้าผมทำ นายกฯ หนีไม่พ้นผมหรอก..."

ล่าสุด “พล.อ.พัลลภ” ข้องใจว่า ทำไม่เขาถูกปลดออกจากสมาชิกพรรค โดยไม่บอกกล่าว เขาเพิ่งรู้ตอนที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ จ.ขอนแก่น โดยตัวเขาเตรียมตัวเข้าร่วมประชุม แต่ลูกน้องแจ้งมาว่าจะไปทำไม เขาปลดนายออกจากสมาชิกพรรคแล้ว จึงได้โทรศัพท์ไปถาม “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอนแรกก็ไม่ยอมบอก

“ผมกับหมอชลน่าน เคยมีบุญคุณกันมา ผมเคยช่วยชีวิตเขาจากพวกผู้มีอิทธิพลในจังหวัดน่าน จะเก็บเขา ผมก็ชวนลูกน้อง 3-4 คน ไปช่วย ไปเคลียร์ให้จนจบ หลังจากนั้น เขาก็ได้เป็น ส.ส.ยกทีม ทำให้ตอนแรกถามเหตุผลเรื่องปลด เขาก็อึกอัก ไม่ยอมบอก แต่ตอนหลังก็คาดคั้นไป เขาถึงบอกว่า ทักษิณให้ปลดออก แต่ถามว่าผมทำผิดเรื่องอะไร เขาก็ไม่ตอบ”

ทักษิณ ชินวัตร
ที่ “พล.อ.พัลลภ” ข้องใจคือ หากจะอ้างว่าต้องการปรับปรุงพรรคใหม่ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน แล้วทำไมปลดเขาออกคนเดียว

แต่การออกมาพูดเรื่องนี้ ในเวลานี้ แถมยังอ้างคำพูดของ “หัวหน้าพรรค” ว่า “ทักษิณ” เป็นคนสั่งปลดนั้น ก็ไปเข้าทาง “นักร้อง” อย่าง “ศรีสุวรรณ จรรยา” หรือ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ที่กำลังร้องยุบพรรคเพื่อไทยพอดี ฐานปล่อยให้ “ทักษิณ” ซึ่งถือว่าเป็นคนนอกเข้ามาก้าวก่าย ชี้นำการบริหารจัดการพรรค...แบบนี้ก็มีพยาน หลักฐานมัดแน่นขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม หากมองกันถึงเหตุผลลึกๆ ของการสั่งปลดครั้งนี้ “พล.อ.พัลลภ” บอกว่า น่าจะเป็นเรื่องในอดีต ที่ทักษิณไปทำความชั่วไว้ในเรื่องหนึ่ง ช่วงที่เป็นนายกฯ เป็นเรื่องที่ตนเองต้องรับผิดชอบ ตนจึงได้รับคำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ซึ่งเล่าไม่ได้ ตั้งแต่นั้นก็เลยขัดใจกัน

“เป็นคำสั่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมก็พยายามหลบเลี่ยงสุดๆ จริงๆ มันง่ายมากสำหรับผม ถ้าจะทำตามคำสั่งนั้น เพราะผมก็เป็นหัวหน้าชุด killing team ทีมล่าสังหารกองทัพบก รบในโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ถ้าทำตอนนั้นก็จบไปแล้ว เขาคงไม่มีชีวิตอยู่จนวันนี้ จนไปอยู่ต่างประเทศ”....

นั่นคือ เรื่องราวแต่หนหลัง ที่ “พล.อ.พัลลภ”พูดถึง “ทักษิณ”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่เพียงเท่านั้น “พล.อ.พัลลภ” ยังพูดถึงรุ่นน้องอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า

...“ไอ้ป้อม ก็เล่นกอล์ฟกับผมแทบทุกวัน ส่วนไอ้ตู่ ผมก็เคยช่วยชีวิตมันไว้ ช่วงที่ผมยศพันตรี เป็นหัวหน้าชุดล่าสังหาร ช่วงปราบปราม ผกค. ตู่เป็นผู้หมวดถูกล้อมในพื้นที่ช่องบก ผมสั่งให้นำทีมไปช่วย ตอนนั้นทีมมีแค่ 7 คน ต้องตีฝ่าไปเอาเขาออกมา ปรากฏว่า เอาเขาออกมาได้เสร็จ ก็มากระซิบว่า พี่ครับผมลืมทหารบาดเจ็บของผมอีกสองคนในบังเกอร์ ผมก็ต้องไปฝ่าเข้าแบกไอ้สองคนนี้ออกมา ครั้งนั้นผมยังได้เซ็นเสนอเหรียญรามาให้เขาด้วย ... แต่ก็โกรธมาก คือ ในช่วงที่ปฏิวัติฯ มันมาจับผมไปขังที่สระบุรี เป็นบ้านร้าง หนูวิ่งพล่าน แถมปฏิบัติเหมือนอย่างกับผมเป็นจอมโจร เอารถสิงห์ทะเลทรายติดปืนกลเฝ้าหน้าบ้าน และบ้านหลังบ้าน ผมแพ้ฉี่หนูเกือบตาย ต้องโทรศัพท์ให้ลูกสาวที่เป็นหมอมารับ เพราะบอกว่าพ่อจะตายแล้ว พาตัวออกมาส่งโรงพยาบาล จนรอดตายได้ นี่คือไอ้ตู่ ที่ทดแทนบุญคุณผมที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ” พล.อ.พัลลภ กล่าว

ตามธรรมดาของคนเก่าเล่าความหลัง ก็มักจะมีโยงไปถึงคนนั้น คนนี้ ที่รู้จักมักคุ้น แล้วสุดท้าย “บิ๊กตู่” ก็โดนหางเลขเข้าด้วยจนได้




กำลังโหลดความคิดเห็น