“พนิต” แนะนำน้องๆ รับปีใหม่ “บิทคอยน์” ได้หลายเด้ง เจ็บหลายเท่า ย้ำ ศึกษาให้ดีก่อนลงทุน หากไม่อยากเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
วันนี้ (2 ม.ค.) นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
สวัสดีปีใหม่ 2022 นะครับ ช่วงนี้กระแสบิตคอยน์กับนักลงทุนรุ่นใหม่ (โดยเฉพาะวัยรุ่นและนักศึกษา) ก็มาแรงต้อนรับปีใหม่กันเลย
เมื่อช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนรุ่นใหม่เกิดความตื่นตัวกับกระแสเงินดิจิทัลกันอย่างมาก ผมเลยอยากชวนคิดชวนคุยกันหน่อย
เราจะเห็นว่า เงินดิจิทัล หรือ บิตคอยน์ นี่มีความผันผวนมากชนิดที่ว่ามีการแซวกันในโลกโซเชียลด้วยซ้ำว่าหากห้างสรรพสินค้ารับชำระสินค้าด้วยบิตคอยน์กว่าเงินจะไปถึงร้านค้าก็อาจจะแทบไม่มีมูลค่าแล้ว ส่วนตัวผมไม่ได้ขัดขวางนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ แต่ต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังและมีหน่วยงานของรัฐที่จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด
ด้วยความผันผวนที่สูงเช่นนี้ ผมคิดว่าเงินดิจิทัลเป็นเรื่องที่จะต้องมีการควบคุมดูแลจากแบงก์ชาติ เพราะผมไม่เชื่อว่าแค่คณะกรรมการ ก.ล.ต. (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) จะจัดการรับมือไหว
ผมเจอคนรุ่นใหม่ รุ่นลูก รุ่นหลานหลายคนลงทุนในบิตคอยน์กันอย่างคึกคัก คนรุ่นใหม่ไม่น้อยเก่งกว่าคนรุ่นผมมาก สร้างรายได้จากเงินดิจิทัลมหาศาล ทำการศึกษาอย่างดีก่อนเริ่มลงทุน ส่วนนี้ผมไม่เป็นกังวลมากนัก
แต่ก็มีบางส่วนที่เมื่อถามว่าเขาซื้ออะไร ลงทุนในอะไร ประเมินมูลค่าของสินทรัพย์นี้อย่างไร คำตอบคือพวกเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาซื้อคืออะไร เห็นเพื่อนซื้อกันและกำไรดีก็ซื้อตามไปด้วย ยิ่งการเริ่มลงทุนก็ทำได้ไม่ยาก ด้วยปลายนิ้วผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น
ของฟรีไม่มีในโลก ยิ่งในตลาดที่มีลักษณะ High risk high return เช่น บิตคอยน์ การแห่เข้าไปลงทุนโดยไม่รู้อะไรเลย เป็นไปตามกระแสก็เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ จากประสบการณ์ที่ผมเคยเป็นผู้จัดการกองทุนมาเกือบ 15 ปี ก่อนจะมาเป็นนักการเมือง เคยผ่านวิกฤตการเงินมาหลายครั้งไม่ว่าจะ วิกฤตต้มยำกุ้งในปี 1996 หรือวิกฤต Hamberger ในปี 2008 ผมก็อยากเตือนสติทุกคนว่า ให้ศึกษาข้อมูลของเงินดิจิทัลให้ดีเสียก่อนอย่ารีบลงทุนตามเพื่อนหรือตามกระแสในโซเชียล เพราะเราจะได้เจอ “พ่อมด” ทางการเงินและนำเสนอการลงทุนที่มีความตื่นเต้นและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดมาก แต่สุดท้ายเมื่อไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีรองรับก็จะทุกครั้งนำไปสู่วิกฤตทางการเงิน
และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ต้องพึงตระหนัก คือ Valuation หรือมูลค่า และปัจจัยพื้นฐาน การลงทุนคือการซื้อการเติบโตหากการลงทุนใดที่เราไม่สามารถเห็นการเติบโตของสินทรัพย์นั้นได้ชัดมันก็คงเป็นการลงทุนที่ไม่แน่นอนและควรระมัดระวัง