“บื๊กบี้” สั่ง ทบ.ผนึกกำลังหน่วยงานมั่นคงควบคุมพื้นที่ ดูแลประชาชนชายแดนตาก พร้อมช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ตามหลักมนุษยธรรม ส่วนปีใหม่เข้มมาตรการป้องกันโควิดทั้งในหน่วยทหารและบ้านพัก
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันด้วยระบบออนไลน์ โดย พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก ซึ่งปัจจุบันมีการสู้รบในเขตประเทศเพื่อนบ้านระหว่างทหารเมียนมา กับชนกลุ่มน้อยอยู่เป็นระยะ หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครกู้ภัย ผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันติดตามสถานการณ์ในทุกด้าน รวมทั้งการส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตลอดแนวชายแดนที่ติดกับพื้นที่สู้รบ และพร้อมจะใช้กลไกที่มีอยู่ดูแลอธิปไตยตามหลักสากล ควบคู่กับการใช้กระบวนการแจ้งเตือนโดยทันทีเมื่อตรวจพบสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและความปลอดภัยของประชาชน เช่น เมื่อมีกระสุนข้ามมาตกยังฝั่งไทย ฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงไปยังรัฐบาลเมียนมา ผ่านช่องทางคณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ให้ระมัดระวังเรื่องการใช้อาวุธ และปฏิบัติการทางอากาศ ซึ่งที่ผ่านมาการคลี่คลายผลกระทบดังกล่าวได้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย
โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล และ กระทรวงกลาโหม ในการติดตามสถานการณ์และการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศของกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้กองกำลังนเรศวรเข้าดูแลราษฎรไทยที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย จากกระสุนที่พลัดตกเข้ามาในฝั่งไทย ช่วยซ่อมแซมให้คืนสภาพโดยเร็ว รวมถึงการปรับภูมิทัศน์ ที่พักอาศัยของประชาชนชายแดนให้มีความปลอดภัยจากสถานการณ์ ทั้งนี้ การสร้างความมั่นใจและดูแลความปลอดภัยให้กับราษฎรไทยเป็นเรื่องที่กองกำลังป้องกันชายแดนและหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ความสำคัญสูงสุด สำหรับการช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาให้ยึดตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ขีดความสามารถของหน่วยงาน และเมื่อเหตุการณ์สงบลงให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งกลับข้ามแดนด้วยความสมัครใจ ซึ่งส่วนใหญ่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศทันทีอยู่แล้วเมื่อการสู้รบในแต่ละห้วงยุติลง
ในการประชุม ผู้บัญชาการทหารบก ยังให้ความสำคัญกับการติดตามและกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอน โดยขณะนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก ได้ออกมาตรการให้หน่วยทหารครอบครัวและผู้ที่ติดต่อราชการได้ยึดถือปฏิบัติประกอบด้วยมาตรการความปลอดภัยจากโควิด-19 ในพื้นที่หน่วยทหาร มาตรการฉีดวัคซีนตามที่สาธารณสุขกำหนด มาตรการคัดกรองโรค เข้มงวดการผ่านเข้า-ออกพื้นที่หน่วยและชุมชนทหาร ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้ทุกส่วนปฏิบัติตาม โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนป้องกันความรุนแรงของโรค ซึ่งเป็นไปตามความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำถึงการดูแลความปลอดภัยพื้นที่ในค่ายทหาร การป้องกันอัคคีภัย กำชับกำลังพลระมัดระวังอุบัติเหตุ ส่วนผู้ที่ต้องปฏิบัติภารกิจดูแลประชาชน ทั้งกองกำลังป้องกันชายแดน จชต. และตามจุดตรวจจุดสกัด ให้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลอย่างเหมาะสม และปฏิบัติตนภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกดูแลช่วยเหลือประชาชนเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุขและปลอดภัย