“แรมโบ้” ลงพื้นที่ด่วนพบสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน 3,000 คน ชุมนุมปักหลักหน้าศาลากลางสุรินทร์ เรียกร้องเยียวยาโครงการเขื่อน อ่าง-ฝายเก็บน้ำของรัฐ 5 จังหวัด 19 กรณีปัญหา รับปากนำเรื่องเสนอนายกฯ เร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว ฝ่ายเกษตรกรพอใจแยกย้ายกลับบ้าน
วันนี้ (22 ธ.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และเป็นประธานการประชุมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกับตัวแทนกลุ่มสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน (สกอ.) ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับฟังปัญหาติดตามความเดือดของเกษตรกรในเครือข่าย สกอ. ซึ่งกลุ่มสมัชชาฯ โดย นายศักดา กาญจนเสน ดร.อวยชัย วะทา นางบุรี อาจโยธา ได้นำกลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน เช่น เขื่อนสิรินธร เขื่อนราษีไศล อ่างเก็บน้ำบ้านทำนบ อ่างเก็บน้ำห้วยโดน อ่างเก็บน้ำอำปึล อ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร เป็นต้น เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะโครงการที่มีมติ ครม.ให้ดำเนินการตรวจสอบ ช่วยเหลือ ชดเชย แต่ยังดำเนินการล่าช้า จนทำให้ต้องนำมวลชนมารวมตัวชุมนุมปักหลักที่ศาลากลางกว่า 3,000 คน เพื่อติดตามความคืบหน้าในปัญหาต่างๆ ทั้ง 19 กรณีปัญหา 5 จังหวัดดังกล่าว
นายเสกสกล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ถึงการตั้งคณะกรรมการ และการเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะได้รับเรื่องทั้งหมด นำเรียนท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป ทางแกนนำ สกอ.พอใจในการประชุมในครั้งนี้
นายเสกสกล พร้อมแกนนำได้ลงมาพบปะมวลชนที่รอปักหลักรอฟังคำตอบอยู่ด้านหน้าศาลากลาง ได้ชี้แจงผลการประชุมพอใจที่ผลการประชุมมีความคืบหน้า โดยกล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทุกคน ฝากอวยพรปีใหม่ให้ทุกคนมีความสุข มีความอยู่ดีกินดี หมดหนี้หมดสิน นายกฯ จะตั้งใจบริหารงาน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ หามาตรการที่ดี ออกนโยบายมาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างมากมายต่อเนื่อง ไม่เคยหยุดทำงานแม้แต่วันเดียว เพราะห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกคน
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า เนื่องจากใกล้จะสิ้นปีเก่าแล้ว ปีใหม่กำลังจะมาถึงอยากให้ทุกคนกลับบ้านไปทำบุญปีใหม่ให้มีความสุขในครอบครัว การชุมนุมอาจจะติดเชื้อโควิด-19 ได้ ถ้าป่วยติดต่อกันจะทำให้เป็นภาระยุ่งยากของพวกเราทุกคน จึงอยากให้สลายการชุมนุมในครั้งนี้และให้แยกย้ายกลับภูมิลำเนา ทำให้มวลชนยอมกลับยุติการชุมนุมและตะโกนฝากให้กำลังใจ นายกรัฐมนตรี “ลุงตู่ สู้สู้ ลุงตู่อยู่ยาว” ลั่นทั่วศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ก่อนแยกย้ายกันกลับ
