xs
xsm
sm
md
lg

กางหลักฐานสำคัญชี้ “สิระ” เคยติดคุกคดีฉ้อโกง ก่อน ศาล รธน.ชี้ชะตาสถานะ ส.ส.พรุ่งนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย
ศาล รธน.นัดวินิจฉัยสถานะ ส.ส. “สิระ” พรุ่งนี้ เหตุมีคุณสมบัติต้องห้ามลงสมัคร ส.ส. หลังเคยต้องโทษจำคุกในคดีฉ้อโกง เผยเอกสารสำคัญหนังสือจาก สน.ลุมพินี ขออายัดตัว “สิระ” ที่ติดตารางอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ชี้ชัดเจ้าตัวเคยติดคุกคดีฉ้อโกงที่ขัด รธน.2560 มาก่อน แถมยังมีคดีอีกเป็นหางว่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 ธ.ค.64) ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยเรื่องที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) หรือไม่

เป็นกรณีที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ กรณี นายสิระ เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวันในคดีหมายเลขดำที่ 812/2538 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 เป็นกรณีที่ผู้ถูกร้องเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ทำให้ผู้ถูกร้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6)

โดยเรื่องนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร และคณะ เป็นผู้ยื่นเรื่องถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ที่เคยต้องคำพิพากษาจำคุกมาก่อน

ครั้งนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยระบุว่า เรื่องดังกล่าวมีหลักฐาน มีคำพิพากษายืนยันชัดเจน หรือนายสิระจะปฏิเสธไม่เคยติดคุก กรณีดังกล่าวเป็นข้อหาฉ้อโกงเกี่ยวกับทรัพย์ โดยศาลแขวงปทุมวัน ปี 2538 ศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน แต่รับสารภาพ จึงลดโทษเหลือติดคุก 4 เดือน รวมถึงคดีอื่นๆเกี่ยวกับนายสิระ รวม 7 คดี ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) ที่ระบุลักษณะต้องห้าม ส.ส.ต้องไม่เคยถูกคำพิพากษาจนถึงที่สุดว่าในการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ส่วนการได้รับการนิรโทษกรรม หรือล้างมลทินแล้วนั้น ก็ถือว่าความผิดยังคงอยู่ เคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาแล้ว ถือว่ามีลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส.

ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยอมรับคดีของนายสิระนั้นเกิดขึ้นมานาน กว่า 20 ปี จึงไม่มีคำรับรองจากศาลว่าคดีนั้นถึงที่สุด 

หนังสือที่ มท.0514.351/12014 ลงวันที่ 26 ก.ย. 2538 อ้างถึงหนังสือเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ที่ มพ.0947/1659 ลงวันที่ 15 ส.ค.2538 ซึ่ง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ทำเรื่องถึงผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อขออายัดตัว นายสิระ เจนจาคะ ที่เป็นผู้ต้องหา ไปดำเนินคดีอื่นต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการเผยแพร่เอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นหลักฐานสำคัญในการวินิจฉัยสถานะ ส.ส.ของนายสิระ โดยเป็นหนังสือที่ มท.0514.351/12014 ลงวันที่ 26 ก.ย. 2538 อ้างถึงหนังสือเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ที่ มพ.0947/1659 ลงวันที่ 15 ส.ค.2538 ซึ่ง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ทำเรื่องถึงผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อขออายัดตัว นายสิระ เจนจาคะ ที่เป็นผู้ต้องหา ไปดำเนินคดีอื่นต่อไป

สำเนาหนังสือฉบับดังกล่าวจึงเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า นายสิระ ได้ถูกคำพิพากษาสั่งให้จำคุกจริง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า โทษจำคุกของนายสิระครั้งนั้น มาจากคดีอาญาที่ 512/2537 และคดีอาญาที่ 2318/2537 ข้อหาฉ้อโกง และปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม มี บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน ผู้เสียหาย โดยอัยการพิเศษฝ่ายคดีมีความเห็นให้สั่งฟ้องในข้อหา ฉ้อโกง ไปยังอัยการพิเศษฝ่ายคดีแขวง 5 (ปทุมวัน)

นอกจากนี้จากการสืบค้นยังมีคดีความที่มีชื่อของ นายสิระ เป็นผู้ต้องหา รวมแล้วมากกว่า 20 คดีฝในหลายท้องที่ ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกง, ผิด พ.ร.บ.เช็คฯ, หมิ่นประมาท รวมไปถึงข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น.


กำลังโหลดความคิดเห็น