พปชร. สรุปส่ง “อนุกูล พฤกษานุศักดิ์” ลงชิง ลต.ซ่อมสงขลา เผย ไม่ส่งชุมพร เหตุไม่ใช่พื้นที่ยุทธศาสตร์ ปัด เกี๊ยะเซียะ “ลูกหมี” เชื่อ “ปชป.” เข้าใจ
วันนี้ (21 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.15 น. ที่รัฐสภา ชั้น 6 ห้องประชุมพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรค พปชร. เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีวาระการพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.สงขลา เขต 6 และ จ.ชุมพร เขต 1
จากนั้น เวลา 16.20 น. น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรค กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.สงขลา และไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.ชุมพร โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรค
น.ส.พัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น พรรคยังไม่มีวาระการประชุมเรื่องนี้ ส่วนที่มีชื่อ นางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง นั้น การประชุมพรรคยังไม่มีประเด็นนี้
ด้าน นายสุชาติ กล่าวถึงสาเหตุที่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเพียงเขตเดียว ว่า จ.สงขลา มี 8 เขต โดยมี ส.ส.ของพรรค 4 เขต ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มี 3 เขต พรรคภูมิใจไทย 1 เขต ถือว่าพื้นที่ ส.ส.ของเรามีมากกว่า ซึ่งยุทธศาสตร์ในการทำการเมืองที่จะทำให้ประชาชนสามารพึ่งพิงได้ เราต้องขยายพื้นที่ ถ้าเราไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.สงขลา เราจะตอบ ส.ส.ของพรรคอีก 4 คน ไม่ได้ ส่วน จ.ชุมพร ที่พรรคไม่ส่งผู้สมัครนั้น เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ของพรรค และมองว่า จ.ชุมพร ไม่มี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ จึงระดมสรรพกำลังทั้งหมดไปสู้และรักษาพื้นที่ใน จ.สงขลา ดีกว่า
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.ชุมพร เพราะปล่อยให้ นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจจะมาร่วมงานกับพรรค พปชร.ในอนาคตหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นสิ่งที่คิดได้ แต่เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนตัวตนและนายชุมพล และ นายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต เราเป็นผู้แทนกันในสภามา 10 กว่าปี เป็นเรื่องปกติที่เราจะมีเพื่อนหลายพรรค ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ในการเลือกตั้งเรายึดถือยุทธศาสตร์การขยายพื้นที่เป็นหลัก
เมื่อถามว่า แสดงว่า ไม่ใช่การเกี๊ยะเซียะทางการเมืองใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์การขยายพื้นที่เท่านั้นเอง
เมื่อถามต่อว่า การไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม จะส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า คิดว่าไม่ เพราะการเลือกตั้ง 400 เขต ตามกฎหมายที่เรากำลังจะแก้ ไม่มีทางที่จะยึด 400 เขต ซึ่งก็ต้องโฟกัสอยู่แล้วว่าจะเอาเขตไหนบ้าง เราไม่มีเหตุผลที่จะสู้ทั้ง 400 เขต ทางการเมืองเราต้องการเสียงข้างมากสุดในสภาฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เราก็ต้องโฟกัสจังหวัดที่เรามีพื้นที่อยู่แล้ว และสามารถขยายพื้นที่ได้อีก
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม คิดว่า ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ก็น่าจะเข้าใจ กลับกันถ้าเขาเป็นเราก็ต้องคิดเหมือนกับเรา หากเขามี ส.ส.มากกว่าเราก็ต้องรักษาพื้นที่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการยึดพื้นที่จังหวัดที่เรามี ส.ส.มากกว่า ถ้ามองว่าเราจะมีปัญหากันมันไม่ใช่หรอก เพราะเรารู้จักกันหมด และเราก็เป็นเพื่อนกันหมด ไม่ว่าจะในทางการเมือง หรือการเลือกตั้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องรักษาพื้นที่ เช่น ตนอยู่ในนามพรรค พปชร. ก็ต้องทำงานให้กับพรรค พปชร.
เมื่อถามว่า แต่ที่ผ่านมา แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแซะพรรค พปชร.ตลอด นายสุชาติ กล่าวว่า ตนเข้าใจได้ เพราะความรู้สึกของแต่ละท่าน ส.ส.แต่ละพรรคก็มีหลายร้อยหลายสิบคน ความคิดของแต่ละคนก็ต่างกัน แต่เชื่อว่าเหตุผลของพรรค พปชร.จะเป็นที่เข้าใจได้