โฆษกรัฐบาล เผย “นายกฯ” ห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทุ่ม 3 หมื่นล้าน ผ่าน ธ.ก.ส. สานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกรพุ่งเป้าขจัดความยากจนภาคเกษตร
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นย้ำความห่วงใยถึงพี่น้องเกษตรกรโดยเฉพาะที่ประสบปัญหาทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง และวิกฤตโควิด-19 ล่าสุด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ดำเนิน “โครงการสานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร” โดยได้รับอนุมัติวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินกู้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการประกอบอาชีพด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรหรือประชาชนที่มีความสนใจประกอบอาชีพ เน้นอาชีพที่มีตลาดรองรับ มีการประกันราคารับซื้อผลผลิต ให้สามารถสร้างรายได้ในระยะสั้น 4 - 6 เดือน ซึ่งจะมีผลตอบแทนเบื้องต้นเพียงพอต่อการดำรงชีพ และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคงต่อไปได้ในอนาคต
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นโครงการที่จะทำให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และวิกฤตโควิด-19 รวมทั้งที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วมีช่วงว่างงาน สามารถเข้าถึงเเหล่งเงินทุนได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อนำเงินทุนนี้ไปสร้างอาชีพตามที่ตลาดต้องการได้ ปล่อยกู้เป็นรายบุคคล ใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันได้โดยไม่ต้องเขียนโครงการ เพียงต้องแจ้งว่าจะนำเงินทุนไปทำอะไร ขายให้ใคร และราคาเท่าไหร่ ทั้งนี้ สามารถยื่นสมัครโครงการฯ ได้ที่ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ โดยเริ่มจ่ายเงินตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่วันที่ 31 มีนาคม 2567 ซึ่งระยะ1-3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 และปีที่ 4-5 ดอกเบี้ยตามปกติของธนาคาร
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญและติดตามการเร่งแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยโครงการสานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร นี้ถือเป็นความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ที่เน้นช่วยเหลือเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยเเล้ง น้ำท่วมและประสบปัญหาโควิด -19 ดังนั้นอาชีพเป็นสิ่งสำคัญที่เสริมรายได้ให้กับชาวเกษตรกร โครงการนี้จะสามารถให้เข้าถึงเเหล่งเงินทุนเพื่อนำไปต่อยอดสร้างอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ต่อไป ถือเป็นโครงการเพื่อขจัดความยากจนตามนโยบาลของรัฐบาล” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว