“เพื่อไทย” ยื่นร่าง กม.ลูกประกอบเลือกตั้ง ส.ส.- พรรคการเมืองแล้ว คาดเข้าสภาฯ ม.ค.และประกาศใช้ มี.ค. 65
วันนี้ (16 ธ.ค.) พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธาวิปฝ่ายค้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยื่นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.(ฉบับที่) .. พ.ศ…..และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง(ฉบับที่) .. พ.ศ….. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงสาระสำคัญของร่าง พ.ร.ป.ว่าการด้วยเลือกตั้ง ส.ส.ว่า จากการเปลี่ยนแปลงจำนวนเขตเลือกตั้งจาก 350 เขต เป็น 400 เขต และบัญชีรายชื่อ จาก 150 คนเป็น 100 คน ซึ่งเป็นการรองรับวิธีการแบ่งเขตเลือกตั้งในร่างของพรรคเพื่อไทยเราเน้นให้มีเขตที่ติดต่อกัน ซึ่งจะแตกต่างจากของเดิม รวมทั้งฐานจำนวนประชากรต้องเขียนให้ชัดเจนขึ้น รวมทั้งวิธีการคำนวณต้องเป็นไปตามมาตรา 91 โดยให้เป็นสัดส่วนโดยตรงกับคะแนนรวมของบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของทุกพรรคการเมืองรวมกันทั้งประเทศ แล้วนำมาคำนวณโดย 100 คน เป็นตัวตั้ง เอามาเฉลี่ยจำนวน ส.ส.ที่จะได้รับในแต่ละพรรคการเมือง โดยใช้ 100 คนเป็นตัวหาร ส่วนกรณีมีเศษ เราจะดูเศษทศนิยมเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น พรรคเพื่อไทยได้ 35.8 พรรคอื่นๆ ได้ 30.2 สมมติรอบแรกได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 90 ที่นั่ง เหลืออีก 10 ที่นั่งก็จะมาดูที่เศษทศนิยม ซึ่งเป็นวิธีการที่ตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน แม้จะเอาเศษไม่ใช้ แต่ก็ไม่มีการปัดเศษ และการจัดเบอร์ผู้สมัครให้ใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศ ทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ส่วนร่าง พ.ร.ป. พรรคการเมือง ทราบว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่น่าจะเสนอร่างดังกล่าว แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่ามีความจำเป็นและสำคัญ เพื่อมีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.เขต จาก 350 เป็น 400 เขต ซึ่งกฎหมายเดิมเน้นเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวางในการคัดเลือกผู้สมัคร และบังคับให้จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดทุกเขตเลือกตั้ง ในร่างของพรรคเพื่อไทยเรายังยืนยันเจตนารมณ์ เรื่องการส่งเสริมการเลือกตั้งเบื้องต้นหรือไพรมารีโหวต เนื่องจากเป็นไปตามรัธรรมนูญมาตรา 45 จะไปยกเลิกไม่ได้ ดังนั้นจึงเปลี่ยนวิธีการให้มีเพียงตัวแทนสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด เพียง 1 เขต ก็สามารถส่งผู้สมัครได้ทุกเขต ทั้งจังหวัด และให้มีบทเฉพาะกาลรองรับจังหวัดใดที่มีตัวแทนพรรคอยู่แล้ว ให้ทำไพรมารีในเขตของตัวเองและทำในเขตอื่นได้ด้วย และการส่งบัญชีรายชื่อนั้นสามารถส่งได้เลยเมื่อมีผู้สมัคร ส.ส.เขตไปสมัครเพียง 1 เขต ก็สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้มีการรับรองคุณสมบัติผู้สมัคร
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นยังแก้ไขค่าบำรุงพรรคของสมาชิกจากเดิม สมาชิกชั่วคราว 100 บาท และ 2,000 บาทสำหรับสมาชิกถาวร ในร่างของพรรคเพื่อไทยได้เสนอว่าเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองมากขึ้น จึงกำหนดว่าอัตราค่าสมาชิกพรรคให้ไปเขียนไว้ในข้อบังคับพรรค ของแต่ละพรรคที่จะเป็นผู้กำหนดเอง นอกจากนี้ ยังเสนอเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง เพราะกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคต้องมีความชัดเจน และการจัดทำนโยบายของพรรคการเมือง ต้องสามารถบอกหล่งเงินว่านำมาจากไหนได้ รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่า ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับจะสามารถประกาศใช้ได้ในเดือนมีนาคม 65
ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า หลังจากนี้ เป็นกระบวนการของสภาฯที่จะตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะบรรจุระเบียบวาระการประชุม ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯได้ในช่วงเดือน ม.ค. 65 เพราะขณะนี้หลายพรรคการเมืองก็เริ่มทยอยยื่นร่างแก้ไขแล้ว และยืนยันว่า ไม่มีร่างแก้ไขฉบับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จึงให้เสรีและอิสระกับทุกพรรคการเมือง