“การเคหะแห่งชาติ” ลงนามMOU “ตำรวจภูธรภาค 1” ลุย “โครงการชุมชนยั่งยืนแบบครบวงจร” แก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนพื้นที่ 9 จังหวัดมุ่งสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ยกระดับคุณภาพชีวิต ขับเคลื่อนสู่ “ชุมชนยั่งยืน”
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจภูธรภาค 1 “โครงการชุมชนยั่งยืนแบบครบวงจร” เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจภูธรภาค 1 ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชนของการเคหะแห่งชาติแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สมุทรปราการ, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง เพื่อเป็นต้นแบบชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน ขับเคลื่อนไปสู่ชุมชนยั่งยืน
“ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น เป้าหมายของการเคหะแห่งชาติในอนาคตเราอยากทำ MOU ร่วมกับตำรวจภูธรภาคอื่น ๆ ด้วย เพื่อที่จะทำงานร่วมกัน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ชุมชนมีความเข้มแข็ง ก็จะส่งผลให้การเคหะแห่งชาติมีความยั่งยืนไปด้วย วันนี้เรามองว่าการพัฒนาบ้าน ต้องเริ่มจากฐานราก ซึ่งฐานรากที่มีความมั่นคงก็จะสามารถต่อยอดไปสู่สิ่งต่าง ๆ ได้ ดังนั้น เมื่อมองคนที่อาศัยในบ้านของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย สิ่งนี้จึงเป็นความพยายามของเราที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้ให้ดีขึ้น” นายทวีพงษ์ กล่าว
สำหรับการดำเนินงานร่วมกันกับตำรวจภูธรภาค 1 จะครอบคลุมพื้นที่ใน 9 จังหวัด โดยเริ่มจุดแรกที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีโครงการต่าง ๆ ของการเคหะแห่งชาติอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงเป็นเมืองใหม่ที่อยู่ในแนวทางการพัฒนาของรัฐบาล โดยแนวทางการดำเนินงานจะเริ่มตั้งแต่การค้นหา คัดกรอง ฟื้นฟู ติดตาม ดูแล และช่วยเหลือ โดยการใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลางที่สามารถดูแลผู้ติด
ยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจ รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกันแก้ไข บำบัดยาเสพติดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับตำรวจในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รวมทั้งสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนอย่างครบวงจร เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย “ชุมชนยั่งยืน” และสามารถนำไปเป็นต้นแบบในการดำเนินงานของชุมชนการเคหะแห่งชาติในพื้นที่อื่น ๆ
ทั่วประเทศต่อไป
“มั่นใจว่าการลดปัญหายาเสพติด และลดปัญหาอาชญากรรม จะนำมาซึ่งความผาสุกของพี่น้องประชาชน ความร่วมมือระหว่างการเคหะแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 1 ในครั้งนี้ จะสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับประชาชนจำนวนมาก และในอนาคตหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเคหะแห่งชาติจะได้ร่วมกับตำรวจภูธรอีก 8 ภาค เพื่อจะร่วมขับเคลื่อนความเข้มแข็งให้กับชุมชนต่อไป” นายทวีพงษ์กล่าว
