xs
xsm
sm
md
lg

57 ปี หมู่บ้านสหกรณ์หุบกะพงสืบสาน รักษา -ต่อยอด เพื่อประโยชน์ของราษฎรอย่างทั่วถึง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



องคมนตรี ลงพื้นที่เพชรบุรี เปิดงาน "ครบรอบ 57 ปี โครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี" สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อประโยชน์ของราษฎรอย่างทั่วถึง

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานครบรอบ 57 ปี โครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง จ.เพชรบุรี ณ ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมีพลอ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน

โดยพล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า 57 ปีของหมู่บ้านสหกรณ์หุบกะพงนี้ก่อเกิดความสามัคคีช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน จาก 5 ครอบครัวแรก ที่ได้รับพระราชทานที่อยู่ที่ทำกินในโครงการฯ ตั้งแต่ต้น ขณะนี้ยังมีคนจาก 5 ครอบครัวแรกเหลืออยู่หนึ่งท่าน และยังช่วยเหลือหมู่บ้านสหกรณ์หุบกะพงแห่งนี้อยู่ นั้นคือความผูกพันและความสามัคคี ของผู้คนในโครงการฯ

“สิ่งสำคัญสำหรับหมู่บ้านสหกรณ์ คือความตั้งใจในการให้การช่วยเหลือสมาชิกจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการอุทิศตนเองให้กับพื้นที่และประชาชน ทำให้ประชาชนมีกิน อยู่ดี มีความสุข ขณะนี้พื้นที่ในโครงการฯ โฉนดเป็นพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน พระองค์ก็ยังทรงสืบสาน รักษาและต่อยอด โครงการตามแนวพระราชดำริที่พระราชบิดาได้เริ่มต้นมา เมื่อ 57 ปีที่แล้ว ทุกวันนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการฯ เพื่อประโยชน์ของราษฎรอย่างทั่วถึง” องคมนตรีกล่าว

ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลการดำเนินงานของโครงการฯ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมพัฒนาอาชีพ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน ในวันนี้มีการจัดงานนำผลงานและผลิตภัณฑ์ของสมาชิกในโครงการฯ มาจัดแสดงอาทิ หมวก กระเป๋า รองเท้า ผลิตภัณฑ์ประยุกต์จากป่านศรนารายณ์ ตลอดถึงพืชผักหลากหลายชนิด ในรูปแบบนิทรรศการแสดงวิถีชุมชนหุบกะพง นิทรรศการกลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์ของโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง และนิทรรศการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (อนุรักษ์ป่า ดิน น้ำ เพื่อลูกหลานไทย) ของหน่วยงานประสานความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการฯ

“หุบกะพงวันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ผู้คนทั่วประเทศเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นแหล่งศึกษาดูงานของประชาชนโดยทั่วไป เนื่องจากมีเกษตรกรทำอาชีพการเกษตรแบบหลากหลาย เช่น การปลูกผักอินทรีย์ การทำสวนเกษตรแบบอินทรีย์ ผักปลอดภัย ทับทิม หน่อไม้ฝรั่ง ตลอดถึงการเลี้ยงสัตว์ ที่สำคัญมีอ่างเก็บน้ำถึง 4 อ่าง ที่มีภูมิทัศน์งดงามเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและพักผ่อนของประชาชน และมีตลาดกลางจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ในโครงการฯ อีกด้วย”

ส่วนนายสนั่นศักดิ์ บุญพิทักษ์ ประธานกลุ่มผู้ปลูกผักปลอดภัยบ้านหุบกะพง เผยว่า ผักที่ปลูกและขายดีที่ทางกลุ่มปลูกจะเป็นผักสลัด เรดโอ๊ค และกรีนโอ๊ค โดยปลูกแบบบนโต๊ะ ด้วยการผสมดินปลูกกับปุ๋ยหมักใช้แผ่นยางพลาสติกรองพื้น เจาะรูเพื่อระบายน้ำ ให้น้ำแบบโปรยฝอย

“ผักสลัดที่ทางกลุ่มปลูกจะขายในราคากิโลกรัมละ 80 บาท ถือว่าไม่แพงเพราะเกษตรกรผลิตแบบมีต้นทุนต่ำ เนื่องจากดินปลูก ปุ๋ยอินทรีย์ จะผลิตเอง ไม่ใช้สารเคมีต้นทุนเลยต่ำ การป้องกันแมลงศัตรูพืชจะใช้สารชีวภัณฑ์ ในช่วงเย็น เนื่องจากเป็นผักที่นิยมบริโภคสดจึงไม่ควรใช้สารเคมี”

โครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง จังหวัดเพชรบุรี เป็นโครงการตามพระราชประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชประสงค์ทุกคนใช้หลักสหกรณ์ในการช่วยเหลือร่วมมือกันสามัคคีกันและสร้างชุมชนให้เป็น “หมู่บ้านสหกรณ์” ปัจจุบันโฉนดที่ดินอยู่ในพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เปลี่ยนพระนามโฉนดที่ดินในพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561) สืบต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกา ธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9

โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหนึ่งในหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมสนองงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ ด้วยการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อการร่วมกันผลิตและรวมกันขาย เพื่อสร้างความเข้มแข็งและรายได้ที่มั่นคงแก่ชาวบ้าน ตลอดจนให้สามารถเข้าถึงกลไกในการให้การช่วยเหลือจากภาครัฐได้ โดยนำระบบสหกรณ์มาใช้ในการส่งเสริมความรู้ และทักษะ เพื่อพัฒนาประชาชนให้เข้าใจในการช่วยตนเอง และเกิดการรวมกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามอุดมการณ์ หลักการ วิธีการสหกรณ์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยหลักการวิธีการสหกรณ์ในพื้นที่ตามโครงการพระราชดำริ ได้เริ่มขึ้นที่หมู่บ้านหุบกะพง ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ด้วยการพัฒนาวิถีชีวิตราษฎรในรูปแบบ “หมู่บ้านสหกรณ์” ใช้หลักการ วิธีการ อุดมการณ์ของสหกรณ์มาทำการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมจนประสบความสำเร็จและนำมาเป็นแบบอย่างในการขยายผลสู่พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศในขณะนี้

ปัจจุบันมีการดำเนินภารกิจร่วมกัน 6 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการจัดพัฒนาที่ดินและชลประทาน ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ ด้านการส่งเสริมสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการฯ ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตรกรและสมาชิกโครงการฯ ด้านการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ด้านการสาธิต ทดลอง และโครงการพิเศษ เพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาแก่ผู้สนใจและบุคคลทั่วไป มีประชาชนนิสิต นักศึกษา รวมทั้งชาวต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมโครงการปีละประมาณ 40,000 คน












กำลังโหลดความคิดเห็น