ปชป.สุดคึก! “เฉลิมชัย” นำเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต พร้อม “ดร.เอ้” เชื่อมั่นศักยภาพเปลี่ยน กทม.ได้ ฝันดันไปถึงผู้นำประเทศ โว นั่งเลขาฯพรรค ไม่เคยแพ้ศึกเลือกตั้ง อยากทำสถิติอีกครั้ง
วันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.05 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ นำว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จำนวน 50 คน 50 เขต เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม พร้อมทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ กทม. พร้อมด้วย แกนนำพรรค และ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มาให้กำลังใจ โดยมีการนำขบวนรถปิกอัพขบวนแห่หาเสียงมาเปิดตัวอย่างคึกคัก
ต่อมา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้นำเปิดตัวผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคทั้ง 50 เขต 50 คน พร้อมกับ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นำทีมผู้สมัคร ส.ก. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของพรรคประชาธิปัตย์
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ตนรอคอยมาเป็นระยะเวลา 2 ปีเศษ หลังจากที่เป็นเลขาธิการพรรค เพื่อนำ กทม.ของพวกเรากลับมาดูแลชาว กทม.ด้วยพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนต้องช่วยกันสื่อไปถึงสมาชิกพรรคแล้วป่าจะมาล้อมเมืองเอง มั่นใจพรรคยังอยู่ในใจประชาชน ถึงแม้ครั้งที่แล้วเราอาจจะไม่อยู่ในใจตามสภาวะเหตุการณ์เหล่านั้น แต่ความเป็นประชาธิปัตย์ยังอยู่ในใจประชาชน เมื่อมีความหวังโอกาสจะมา แต่ถ้าโอกาสมาถึงแล้วไม่คว้าเอาไว้ก็เหมือนไม่มีโอกาส ดังนั้นต้องช่วยกันคว้าโอกาสนี้ไว้
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตนเป็นเลขาธิการพรรค มาถึงวันนี้ 9 ปีผ่านไป ตนโชคดีได้เป็นเลขาธิการพรรคดูแลการเลือกตั้ง กทม. อีกครั้ง ชนะไปครึ่งนึงแล้ว อีกครึ่งที่เหลืออยู่ที่พวกเราวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ อุดมการณ์หลักการไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่วิธีคิด วิธีทำงาน กรอบแนวความคิดต้องเปลี่ยน ตนคิดตลอดว่าถ้ามีโอกาส ได้ดูมหานครทั่วโลก สิ่งที่เขาหวังกับผู้บริหารทุกที่คืออนาคตของประเทศนั้นๆ จะเห็นว่า ผู้บริหาร เมืองของประเทศนั้นจะมีโอกาสไปเป็นผู้บริหารประเทศในวันข้างหน้าเพราะเมืองหลวงคือหัวใจของประเทศนั้น ตนได้แนวคิดนี้มาใช้ หากจะสนับสนุนผู้บริการ กทม.ให้มาดูแลประชาชน 10 ล้านคน เราต้องหาคนที่จะมาดูอนาคตของประเทศด้วยดังนั้นต้องสื่อไปถึงทุกคนว่า การเลือกผู้บริหารครั้งนี้คือการมองอนาคตของประเทศไทยในวันข้างหน้าด้วย
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้มองแค่เราจะส่งผู้บริหาร กทม. ต้องไปถึงอนาคตว่าเขาจะทำอะไรต่อไปได้ เขาจะดูแลประเทศไทยอย่างไรได้ด้วยศักยภาพของ ดร.เอ้ ซึ่งวันนี้คือครอบครัวของประชาธิปัตย์ มีศักยภาพพอที่จะเดินไปถึงจุดนั้น พอที่จะบอกคน กทม.ให้ช่วยส่งเสริมคนนี้แล้ววันหน้าเขาจะมีโอกาสที่จะกลับมาดูแลคน กทม.มากกว่าผู้ว่าฯด้วยซ้ำไป ยามเมื่อเรากระโจนเข้าสู่สนามเลือกตั้งก็คือการออกรบ เหมือนภาพวาดของจีนที่ม้าที่วิ่งเรียงแถว ตัวข้างหน้าจะไม่ได้ทะยานไปอย่างเดียว แต่จะวิ่งเอียงๆ หมายถึงคนเป็นผู้นำต้องดูแลคนรอบข้างด้วยและคนที่ตามข้องช่วยเกื้อหนุนคนที่นำเราไป
“วันนี้ผมมั่นใจ และ ดร.เอ้ ก็เป็นความหวังของผมด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ของเราจะกลับมาอยู่ในใจของประชาชนอีกครั้ง จากการทำงานอย่างหนักของเรา จากอุดมการณ์การและหลักการที่มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงของเรา จะช่วยกันนำพาโอกาสนี้กลับมาสู่ประชาธิปัตย์ ผมอยากทำสถิติอีกครั้งว่า ผมเป็นเลขาพรรคครั้งไหนไม่เคยแพ้ในศึกเลือกตั้ง ดังนั้น ความหวังนี้ไม่สามารถทำได้เพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เราต้องทำงานหนักขึ้น ให้ประชาชนเห็นความตั้งใจจริงของเราที่จะมาเปลี่ยนกทม.ไปในทางที่ดี และวันหน้าถ้ามีโอกาส เราจะเปลี่ยนประเทศไทยด้วยกัน” นายเฉลิมชัย กล่าว
