ยอมรับเต็มปากแล้ว “บิ๊กตู่” บอกเป็นนักการเมือง ส่วนจะลงสมัครเลือกตั้งหรือไม่ โยนเป็นเรื่องอนาคต ลั่น ขออยู่ครบเทอม มี.ค. 66 ดักคออย่าให้มีอุบัติเหตุการเมืองเสียก่อน ขอบ้านเมืองสงบก่อนที่จะจัดเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. 65
วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 (ศบศ.) ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะเป็นสนามเลือกตั้งครั้งต่อไปว่าหากถามถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมก็ต้องบอกว่าก็ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสม
“อะไรที่เกี่ยวข้องกับคำว่าเหมาะสมมันคืออะไร ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความขัดแย้งต่างๆ ต้องลดลง เพราะต้องเป็นห่วงประเด็นในเรื่องของความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของบ้านเมือง มันต้องมาก่อน เมื่อไหร่มีความพร้อมก็ต้องเลือกตั้งไป ซึ่งก็สุดแล้วแต่ว่าประชาชนจะเลือกใคร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่า ช่วงไหนน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการจัดการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อก็ไปหาช่วงเวลามาให้ตนก็แล้วกัน เรื่องนี้ต้องไปถามคนที่เกี่ยวข้อง ว่าทำอย่างไรบ้านเมืองจะสงบพร้อมจะเลือกตั้งอะไรได้บ้างก็ไปว่ากันมา
เมื่อถามย้ำว่า ต้องการถามถึงความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า “ก็ใช่น่ะสิ ก็บอกแล้วว่าเลือกตั้งปี 65 ปีนี้เพิ่งปี 64 ก็รอปี 65 เลือกตั้ง สถานการณ์ต้องมีความพร้อม มีความสงบเรียบร้อย ต่อยตีกันไปมันไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนช่วงนี้นายกรัฐมนตรีจะพูดถึงเรื่องการเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้กรอบของกฎหมายเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ผมยังอยู่ในการเป็นรัฐบาลมิใช่หรือ ซึ่งตามกรอบกฎหมายก็เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ว่าจะอยู่จนถึงเดือนมีนาคม 66 กรอบกฎหมายเค้าเขียนไว้อย่างนั้นไม่ใช่หรือ ผมจะอยู่ไปจนถึงปี 67 ได้หรือไม่ล่ะ เมื่อไม่ได้ก็อยู่ในตำแหน่งได้ถึงปี 66 ซึ่งถ้าบ้านเมืองสงบสุขเราก็อยู่ให้จนครบวาระไปก็เท่านั้นเอง อย่าไปมีอุบัติเหตุทางการเมืองอะไรขึ้นมาให้มันเกิดความเสียหายอะไรขึ้นมาเลย บ้านเมืองจะได้ไปได้ผมก็ทำอะไรหลายๆอย่างไว้แล้ว ไม่ใช่ทำเพื่อวันนี้หรือทำเพื่อคะแนนเสียงของผมด้วยซ้ำ ผมทำให้กับประชาชนและประเทศชาติมีแผนงานในอนาคตไว้เยอะแยะไปหมด ก็ลองไปเปรียบเทียบดูแล้วกัน”
เมื่อถามว่า ความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีคือต้องการอยู่ให้ครบวาระใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ แต่ทำเสียงในลำคอ “อืม อึหึ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าวันนี้เป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ต้องเป็น เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นนักการเมือง” ก่อนย้อนถามว่า “ผมยังเป็นทหารอยู่หรือไม่ล่ะ ผมเป็นทหารเกษียณแล้ว ส่วนที่ยังมียศนำหน้าอยู่แล้วจะให้ผมทำอย่างไรจะต้องให้ลดยศลงไปหรือ จะให้ตัดยศหรือ ยศ ที่มีอยู่เป็นยศพระราชทาน
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อยอมรับว่า เป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้วจำเป็นต้องลงเลือกตั้งในระบบอย่างเช่นลงสมัครในนามปาร์ตี้ลิสต์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ค่อยว่ากันในอนาคตเอาไว้ใกล้เลือกตั้งก่อน” เมื่อถามว่าถ้าจะลงสมัครในนามนักการเมืองเต็มตัวจะลงในพื้นที่โคราชหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เลอะเทอะ ก็บอกแล้วว่ายังไม่ถึงเวลา จะมาถามอะไรวันนี้”