มาอีกแล้ว!!! โควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” จากแอฟริกาใต้ กระหน่ำมาพร้อมกับ ตัวเลขผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตในยุโรป ที่ทะยานขึ้นต่อเนื่อง จนไม่เห็นขาลง
ถามว่า “น่ากลัวไหม” ก็ควร “กลัว”
แล้วทำยังไง ก็กลับมาที่คาถา “กัน” โควิดบทเดิม “ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก”
ที่ประชาชนส่วนใหญ่พร้อมใจกันดูแลตนเอง รับฟังข้อมูลที่ถูกต้องจาก “คนทำงาน” แล้วนำไปปฏิบัติ
จะมีแค่ “คนบางกลุ่ม” ที่สร้างขบวนการปลุกปั่นดิสเครดิตกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ใส่ความอาจารย์หมอ
ด้อยค่าวัคซีน มีตัวนี้จะฉีดตัวนั้น เค้าไปซ้ายตรูจะไปขวา อะไรที่ปิดจะให้เปิด อะไรที่เปิดจะให้ปิด
เหมือนจะอยากจะเห็นประเทศชาติหาย ไปต่อหน้า
มาถึงวันนี้ต้อง “เขิน” บ้างนะ เพราะ “ผลงาน” ของคน สธ. ที่เจ้ากระทรวงคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งก็โดนสี โดนสอย จิกด่า บางช่วงหายใจก็ยังผิด มันพิสูจน์แล้วว่า
การสาธารณสุขของไทยเข้มแข็ง “เรา” จึงประคับประคองสถานการณ์มาได้
ด้วยฝีมือของคนกระทรวงหมอทุกชีวิต ทุกหน้าที่ ซึ่งตั้งป้อมสู้กับโควิด-19 มาตั้งแต่ ปลายปี 2562 กัดฟันมาจนถึงตอนนี้จะสิ้นปี 2564
แม้มีการระบาด แต่อัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนประชากรต่ำ เพราะไทยมีระบบการดูแลรักษาที่ดีเยี่ยม จำกัดวงจรแพร่เชื้อได้รวดเร็ว
ถึงโควิดไม่ไปไหน ไทยก็ยังเป็นประเทศปลายทางที่ทั่วโลกเชื่อมั่น อยากมาท่องเที่ยว คนไทยยังใช้ชีวิตได้ แม้จะไม่เหมือนเดิม 100%
จึงอยากดึง “สติ” พวกชอบ “ด่า” แบบไร้ข้อมูล ให้ปรับตัว กลับใจ ไม่ใช่ห้ามพูด แต่ลองหัดเสนออย่างสร้างสรรค์ สมองจะได้ทำงานบ้าง ไม่ใช่ใช้แค่ปากกับขยับปลายนิ้ว
ลองเบิ่งเนตรดูว่า สิ่งที่ “หมอหนู” เคยพูดมาตลอด ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
“รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนให้
ประชาชนไทยทุกคน”
“ไทยจะมีวัคซีนที่หลากหลาย เราไม่เคยแทงม้าตัวเดียว”
“วัคซีน mRNA จะมาถึงไทยไตรมาส 4 ปี 2564”
“ไทยจะฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดส ในปี 2564”
ไม่จริง ตรงไหน เอาปากกามา “วง”
คนทำดี ทำได้ ก็ต้องให้ “เครดิต”
“เสี่ยหนู” ไม่ใช่คนพูดหวานหู
แต่คนที่พูดได้ดีที่สุด คือคนที่ “ทำ”ได้ อย่างที่ “พูด”