“การเคหะฯ”เร่งจัดหา “ที่ดิน” พัฒนาโครงการ “บ้านเช่าราคาถูก”

“การเคหะแห่งชาติ” บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เร่งจัดหา “ที่ดิน” พัฒนาโครงการ “บ้านเช่าราคาถูก” ทั่วประเทศ
ช่วยผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งให้ความสำคัญในด้านที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนที่มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง โดยมอบนโยบายให้ การเคหะฯ เร่งดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ทางการเคหะแห่งชาติ มีเป้าหมายจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทเช่าหลายโครงการ อาทิ โครงการบ้านเคหะสุขประชา โครงการบ้านเคหะสุขเกษม โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการชั้นผู้น้อย โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) ตลอดจนโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม กลุ่มผู้ถูกไล่รื้อที่อยู่อาศัย กลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ริมทางรถไฟ และประชาชนทั่วไป โดยมุ่งช่วยเหลือคนทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน และประสบปัญหาทางสังคม ให้มีความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของการเคหะแห่งชาติ

ยกตัวอย่าง “บ้านเคหะสุขประชา” ซึ่งวางคอนเซ็ปต์เป็น “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” สำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อเข้าไปช่วยเหลือทั้งด้านที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยมีเป้าหมายโครงการใน 5 ปี (พ.ศ.2564 - 2568) สร้างบ้านรวม 100,000 หลัง ปัจจุบันจัดทำโครงการนำร่องในกรุงเทพฯ จำนวน 572 หลัง และในปี 2565 วางแผนดำเนินการก่อสร้างจำนวน 30,000 หลัง ซึ่งล่าสุด มติ ครม.เมื่อวันที่ 9พ.ย.เห็นชอบให้มีการจัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) หรือ บมจ. เคหะสุขประชา เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน และเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภาคที่อยู่อาศัย รวมทั้งยกระดับเศรษฐกิจในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยในชุมชน

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการบ้านเคหะสุขประชา มีเป้าหมายในการจัดสร้างถึง 100,000 หลัง ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ที่ดินจำนวนมาก ในขณะที่การเคหะแห่งชาติ มีจำนวนที่ดินไม่เพียงพอต่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ เป็นที่มาในการเดินหน้า “บูรณาการ” ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อจัดหาที่ดินในลักษณะของการทำสัญญาเช่าในระยะยาว เพื่อนำมาจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย “บ้านเช่าราคาถูก” ทั่วประเทศ การดำเนินงานที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับหลายหน่วยงาน เพื่อใช้ที่ดินในการดำเนินโครงการ เริ่มจากการ MOU กับ “กรมธนารักษ์” เพื่อใช้ที่ราชพัสดุ โดยจัดทำเป็นสัญญาเช่าในระยะยาวและสามารถต่ออายุสัญญาได้ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ โดยโครงการนำร่องที่การเคหะแห่งชาติจะดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น ในจังหวัดพิษณุโลกครอบคลุม 8 อำเภอ โดยมีแผนนำที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาโครงการบ้านเคหะสุขประชา บ้านเคหะสุขเกษม รวมถึงบ้านพักสำหรับข้าราชการและผู้มีรายได้น้อย

นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเคหะแห่งชาติ ยังได้ MOU ร่วมกับ “การรถไฟแห่งประเทศไทย” เพื่อใช้ที่ดินของการรถไฟฯ สร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ข้าราชการบำนาญ พนักงานรถไฟที่ปฏิบัติงานหรือเกษียณอายุไปแล้ว รวมถึงกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ และประชาชนทั่วไป โดยจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามกรอบระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2564 - 2569) นอกจาก 2 หน่วยงานดังกล่าวแล้ว การเคหะแห่งชาติยังมีแผนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อขอเช่าที่ดินในการจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคต อาทิ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นต้น

“ภารกิจของการเคหะแห่งชาติ เรามุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายตามนโยบายรัฐ ให้สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานในราคาค่าเช่าที่เหมาะสม ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐในการจัดหาที่ดินนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จึงเป็นการตอบโจทย์ให้เป้าหมายดังกล่าวสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น” นายทวีพงษ์ กล่าว