xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” มองการเมืองใต้เข้มข้น ปชป.โดนแย่งฐานเสียงรอบด้าน ซื้อเสียงหนักหวั่นติดเป็นวัฒนธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีต ส.ส.เมืองคอน ปชป. วิเคราะห์ การเมืองภาคใต้ สู้กันเข้มข้น ปชป.กำลังโดนแย่งฐานเสียงรอบด้าน นักการเมืองหว่าน ซื้อเสียงกำลังระบาดหนัก หวั่นทำคนใต้ติดวัฒนธรรม “เงินไม่มา กาไม่เป็น”

วันนี้ (21 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งต่อไปในสนามเลือกตั้งภาคใต้ ว่า จะมีความเข้มข้นและดูเดือดมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นพื้นที่เป้าหมายแห่งใหม่ ของพรรคการเมืองหลายพรรค จากเมื่อก่อนพื้นที่ภาคใต้ เป็นพื้นที่ฐานเสียงผูกขาดของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีฐานคะแนนสัดส่วน 70% อีก 30% คือกลุ่มคนที่ไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์

แต่ในการเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 ฐานคะแนนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ถูกแบ่งไปเลือกพรรคพลังประชารัฐ จากความนิยมในตัว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือกระแสลุงตู่ฟีเวอร์ และมีบางพื้นที่ถูกเจาะฐานคะแนนโดยพรรคภูมิใจไทย แต่ในสัดส่วนของกลุ่มคน ที่ไม่เลือกประชาธิปัตย์ 30% ก็ยังเหนียวแน่นคงเดิม เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัคร พรรคไทยรักษาชาติ ถูกยุบก่อนการเลือกตั้ง คะแนนส่วนนี้ ก็กลับไปเลือกพรรคอนาคตใหม่ และพรรคการเมืองอื่นๆ ตามลำดับ

สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปฐานคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะถูกแบ่งออกไปอีกจากพรรคกล้า ยิ่งมี พันเอก สุชาติ จันทร์โชติกุล เข้ามาเสริมทัพ ก็จะทำให้กลุ่มคนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่มีความหนักแน่นเพียงพอ อาจเปลี่ยนใจไปเลือกพรรคกล้าอีกก็ได้ เพราะหัวหน้าพรรค คือ นายกรณ์ จาติกวณิช ก็เคยเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาก่อน ยิ่งตอนนี้สถานการณ์การเมืองในพื้นที่ภาคใต้ มีความเปลี่ยนแปลงจากครั้งในอดีตเป็นอย่างมาก กระแสการซื้อสิทธิขายเสียงรุนแรง ไม่แพ้ในภาคอื่นๆ จึงทำให้พรรคการเมืองที่เคยประสบความสำเร็จ จากการใช้เงินในการเลือกตั้งในภาคอื่น ได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์นำกระแสการใช้เงินมาเจาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งประสบความสำเร็จมากกว่าในภาคอื่นๆ ด้วยซ้ำไป

จากการทดลองใช้เงินในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เริ่มเข้าเป้า และตอนนี้ประชาชนในภาคใต้ เริ่มคุ้นชินกับกระแสการใช้เงิน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน กำลังจะกลายเป็นประเพณีวัฒนธรรม ”เงินไม่มา กาไม่เป็น” อีกพื้นที่หนึ่ง นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง จนกำลังเป็นที่กล่าวขานกันว่า เป็นยุคประชาธิปไตยเงินสะพัด 


กำลังโหลดความคิดเห็น