นายกฯ ห่วงน้ำเจ้าพระยาหนุนสูง-อุทกภัยใต้ภาคใต้ กำชับหน่วยงาน รับมือสถานการณ์ ดูแลประชาชน
วันนี้ (20 พ.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา จากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน.รายงานข้อมูลจากโทรมาตรวัดระดับน้ำบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า โดยคาดการณ์ ระดับน้ำทะเลหนุนจะกลับมาสูงขึ้นในช่วงตั้งแต่วันที่ 19-24 พ.ย. แต่ไม่สูงเท่ากับช่วงวันที่ 8-10 พ.ย. ที่ผ่านมา คาดว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรง และไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขามาก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชน กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้ว่าราชการจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร ฯลฯ เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ ในกรณีน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หนุนสูงท่วมบ้านเรือนประชาชน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำระบบการแจ้งประชาชน จะต้องมีประสิทธิภาพ เพื่อที่ประชาชนจะได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า สถานการณ์จะไม่รุนแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากนัก แต่ขอให้ประชาชนติดตามการข้อมูลข่าวสารและแจ้งเตือนจากหน่วยงานภาครัฐ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ หลังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย แจ้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ 10 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 23 -25 พ.ย. นี้ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประสานหน่วยงานท้องถิ่น เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งกำลังพล และเครื่องอุปกรณ์ โดยปฏิบัติตามแผนการเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด และแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบทั่วกัน