วันนี้ (17 พ.ย.) แหล่งข่าวรายงานว่า พรรคพลัง ได้เคาะวันเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพลัง ชุดที่ 1 วาระ 2564-2568 โดยกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 วันเสาร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ระหว่างเวลา 10.00-16.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยจะมีสมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 400 คน ซึ่งมีไฮไลต์สำคัญ ภาคเช้า ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจโลก” นักเศรษฐศาสตร์การเมืองชื่อดังระดับประเทศ : รองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมของ EACAP องค์การสหประชาชาติ ช่วงภาคบ่าย ไฮไลต์สำคัญ เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพลัง ซึ่งต้องรอลุ้นว่าสายการเมืองใดใครจะมานั่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค โดยคณะผู้บริหารจะแถลงข่าวเปิดตัวพรรคพลังหลังเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันดังกล่าว หากผู้สนใจร่วมงาน ติดต่อประสานงาน เบอร์ 062-6265591
วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เจาะลึกว่า พรรคพลัง เป็นพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มการเมืองใด ซึ่งจากการสืบค้นเจาะลึก มีการวางรูปแบบโฆษณาประชาสัมพันธ์โปรโมตชื่อเสียง “พรรคพลัง” พร้อม “โลโก้พรรค” ที่น่าสนใจ เมื่อตรวจสอบกับสำนักทะเบียน กกต.พบว่า ได้ยื่นจดเตรียมการจัดตั้งจริง แม้พรรคการเมือง จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่เป็นที่จับตามองว่า เป็นการรวมตัวกันทั้งสองขั้วหรือไม่ ซึ่งแม้เปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้ง เป็นบัตร 2 บัตร แต่พรรคพลังยังเดินหน้าเต็มสปีดเตรียมประชุมใหญ่ ประกาศเตรียมคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ท้าชนทุกพรรคการเมือง และทุกเขตเลือกตั้ง ซึ่งถือว่า ไม่ธรรมดา ทำให้หลายคนจ้องจับตาความเคลื่อนไหวในการประชุมใหญ่ ว่า จะมีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่ เพราะเดิมเคยจะให้ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช มาปาฐกถาทางเศรษฐกิจและเปลี่ยนให้นักเศรษฐศาสตร์การเมืองชื่อดังอย่าง รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ แสดงให้เห็นการตั้งพรรคการเมืองอย่างมีคุณภาพ เน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะพรรคพลัง ปล่อยแคมเปญที่ว่า “เศรษฐกิจย่ำแย่ คนแก้ต้องพรรคพลัง” ทำให้ตอกย้ำถึงนโยบายมุ่งเน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งแม้พรรคพลัง จะเป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่ แต่มีความแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น เพราะส่วนใหญ่การจัดประชุมใหญ่จะไม่มีการปากฐาทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะขยี้ให้เห็นถึงปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ต้องติดตามว่า จะปล่อยนโยบายที่น่าสนใจอะไรบ้าง น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ การเปิดตัวพรรคพลังอย่างไม่เป็นทางการที่ผ่านมา แม้อยู่ระหว่างรอประชุมใหญ่ แต่คณะผู้บริหารได้ปล่อยภาพโลโก้พรรค เสื้อแขนยาวของพรรค เป็นเครื่องการันตีถึงเครื่องหมายการค้า หรือสัญลักษณ์โลโก้พรรคพลัง เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบ เครื่องหมายธงชาติในอักษร พ.พาน กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานรัฐ พบว่า คณะกรรมการธง ได้อนุญาตให้ใช้ธงชาติขนาดเท่ากันในโลโก้พรรค เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาจริง ซึ่งถือว่า ไม่ธรรมดา เพราะธรรมดาค่อนข้างอนุญาตยากมากประกอบกับกฎหมายพรรคการเมืองได้ห้ามใช้ธงชาติในโลโก้ของพรรค ทำให้ชื่อชั้นพรรคพลังเป็นจุดที่น่าสนใจ ทำให้คอการเมืองรู้จักชื่อพรรคพลังกันแพร่หลายทั่วประเทศ ถือว่า เป็นพรรคการเมืองที่น่าจะมีสายสัมพันธ์คอนเนกชันค่อนข้างดี จากการสืบค้นข้อมูลเชิงลึก พบว่า พรรคพลังได้ประชุมเตรียมจัดตั้งพรรคพลัง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น ต่อมาได้ยื่นจดทะเบียนจดจัดตั้งพรรคการเมืองต่อ กกต.เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้น ได้เดินสายประชุมสัญจรเพื่อรวบรวมสมาชิกผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันทุกภาคของประเทศ เริ่มจาก วันที 24 พฤศจิกายน 2563 ประชุมสัญจรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ต่อมาวันที่ 9-10 ธันวาคม 2563 แจกถึงยังชีพที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และประชุมสัญจรภาคใต้ ทีอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และต่อมาวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ประชุมสัญจรภาคเหนือที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง แต่ต่อมา นายทะเบียนพรรคการเมือง อนุญาต พก.7/2 เลขที่ 5/2564 ในส่วนการประชุมใหญ่เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเมื่อสืบค้นพบว่า ครั้งแรก นัดหมายกำหนดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 วันที่ 9 พฤษภาคม 2564 แต่ปรากฏว่า ติดปัญหาสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก ครั้งที่สอง ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 แต่ติดปัญหาโรคระบาดเช่นเดียวกันประกอบรัฐบาลกำหนดเป็นโซนสีแดงเข้ม ควบคุมมิให้รวมตัวกันทำกิจกรรมทางการเมือง ทราบจากแหล่งข่าวว่า คณะผู้บริหารนัดประชุมใหญ่ทางระบบออนไลน์ ครั้งที่ 3 วันที่ 24 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา แต่งดและเลื่อนการประชุมเนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศและกำหนดให้กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่สีฟ้า จึงได้กำหนดประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งถือว่าเป็นพรรคการเมืองแจ้งเกิดที่ฝ่าด่านปัญหาแพร่ระบาดไวรัส 2019 และเป็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นในระบบเลือกตั้งใหม่ บัตร 2 ใบ ต้องติดตามการประชุมใหญ่ ว่า พรรคพลังจะตอบโจทย์การเมืองไทยหรือไม่ หากคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว สร้างกระแส ปล่อยนโยบายที่ถูกใจอย่างไร ซึ่งเมื่อสืบค้นวิธีการสรรหาคัดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคพลัง ได้เปิดรับสมัครผู้สนใจสมัครรับเลือกตั้งทุกเขตเลือกตั้ง โดยผสมผสานเน้นคนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง และรุ่นมีประสบการณ์ทั้งอดีต ส.ส.และนักการเมืองท้องถิ่นและมีมวลชนในเขตฐานการเมืองในพื้นที่ นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังให้ความสนใจในดีลใหญ่การเมืองและหัวจ่าย พบว่า มีกลุ่มการเมืองระดับประเทศและกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ที่ยังอุบเป็นความลับ อยู่เบื้องหลังการตั้งพรรคพลัง โดยมีสายคอนเนคชั่นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน โดยตั้งพรรคพลัง เป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้นอมินีของพรรคการเมืองอื่นใด โดยให้บุคคลที่ใกล้ชิดและมีความไว้วางใจ มือบริหาร อักษรย่อ บิ๊ก ณ ขุมกำลังอำนาจ คนหนุ่ม ไฟแรง วัย 40 กว่าปี เป็นนักกฎหมาย ดีกรีจบเนติบัณฑิต จบปริญญาเอกทางกฎหมายมหาชน และปริญญาเอกทางด้านการเมือง ทั้งยังจบหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการพัฒนาผู้นำเมือง ของ กทม.และประกาศนียบัตรชั้นสูงผู้บริหารระดับสูง หลายหลักสูตร วิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า เป็นข้าราชการระดับสูง ประกอบกับมีประสบการณ์ทางการเมือง อาทิ ที่ปรึกษารัฐมนตรี คณะกรรมาธิการชุดต่างๆในสภาผู้แทนราษฎร ครบเครื่อง
แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ ทราบว่า เจ้าตัวยังไม่ตัดสินใจลาออกจากราชการมาเป็นนักการเมืองระดับชาติเต็มตัว เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลกูเกิลวิกิพีเดียคนดัง พบรายชื่อ บิ๊ก ณ คนดังกล่าวตรงตามคุณสมบัตินั้นจริง แหล่งข่าวรายงานว่า เดิมกลุ่มการเมืองใหญ่และกลุ่มนักธุรกิจหัวจ่าย ทาบทาม บิ๊ก ณ ให้มานั่งเป็นหัวหน้าพรรค แต่เจ้าตัวยังไม่ตอบรับ ซึ่งในวันประชุมใหญ่สามัญ แหล่งข่าวยืนยันว่า ได้วางตัวให้เพื่อนเลิฟคนหนึ่งของ บิ๊ก ณ มานั่งเป็นหัวหน้าพรรค เพราะมีคุณสมบัติครบเครื่องเป็นนักกฎหมายมหาชน และดีกรีจบปริญญาเอกทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรใหญ่ของรัฐด้านการศึกษา มือบริหารด้านวางแผนยุทธศาสตร์และนโยบาย ซึ่งเป็นมือบริหารองค์กร มือสะอาด ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ มานั่งเป็นหัวหน้าพรรคแทน บิ๊ก ณ แล้วขยับให้บิ๊ก ณ ไปนั่งกุมบังเหียนเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งถือว่า เป็นเบอร์หนึ่งของพรรคที่กุมบังเหียนทั้งหมด เป็นคนใจถึง พึ่งได้ เพราะต้องคุมหัวจ่าย คุมกำลังอำนาจการเมืองในมุ้งต่างๆ และส่วนใหญ่แล้วแกนนำและสมาชิกสายต่างๆ ให้ความเกรงใจ ซึ่งคอการเมืองต้องติดตามว่า การวางตำแหน่งต่างๆ ในพรรค ตรงตามสูตรนี้ หรือไม่ อย่างไร เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวว่า บิ๊ก ณ คนนี้ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหนึ่งดูแลด้านกฎหมายและนั่งกรรมาธิการในคณะต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ ส.ส.คนหนึ่ง ใช่หรือไม่ แหล่งข่าวยืนยันว่า “ใช่” เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจค้นประวัติเชิงลึก พบว่า บิ๊ก ณ คนนี้ เป็นเพื่อนสนิทกับ กกต.ท่านหนึ่งที่มีบทบาทใน กกต.และมีภาพไปตรวจราชการร่วมกันในต่างจังหวัด ทั้งยังนั่งเป็นอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาและข้อโต้แย้งในคดีเลือกตั้ง ของ กกต.ระหว่างปี 2562-2564 ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ทางการเมือง ครบเครื่อง ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า เท่าที่ตรวจสอบชื่อพรรค อ่านว่า พะลัง และโลโก้พรรค เกี่ยวพันอะไรกับพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ ได้รับยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และ พรรคพลังประชารัฐ แต่อย่างใด แต่มีเจตจำนงที่ตั้งพรรคพลังเพื่อเป็นพรรคการเมืองกระแสหลัก ไม่ใช่ทางเลือกใหม่ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ซึ่งหากเป็นไปได้อาจเทียบเชิญส่งตัวแทนพรรคลงสมัครแข่งขันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชิมลาง เป็นสนามแรก ทั้งนี้ ต้องดูความพร้อมทุกด้านและตัวแทนที่จะส่งลงสมัครด้วย
แหล่งข่าวรายงานว่า เดิมสื่อมวลชนบางสำนักวิเคราะห์ไว้ว่า พรรคพลังเป็นกลุ่มการเมืองวิทยุเสื้อแดง แต่เมื่อเจาะลึกและตรวจสอบรายชื่อว่าที่คณะกรรมการบริหารพรรค ที่อุบเป็นความลับ ล้วนมาจากทุกสาขาอาชีพ ซึ่งไม่ใช่กลุ่มวิทยุเสื้อแดง ซึ่งหากพิจารณาจากกลุ่มทุนใหญ่ หัวจ่ายที่ไม่สะดุด มาจากการดีลระหว่างนักการเมืองระดับชาติ และนักธุรกิจใหญ่ผู้สนใจทางการเมือง พร้อมสู้ในสนามการเมืองสมัยหน้า หากพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ตามกฎหมายพรรคการเมือง เจตจำนงให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ซึ่งต้องเชื่อมโยงทุกสาขาอาชีพด้วย นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบกับ สำนักงานใหญ่ชั่วคราวที่ยื่นต่อนายทะเบียน กกต.ล่าสุด พบว่า ระบุการจดทะเบียนไว้ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ทางเข้าหมู่บ้านมีรั้วถึงสองชั้น เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่อยู่ในหมู่บ้าน มีรั้วรอบขอบชิด เมื่อสอบถาม รปภ.หมู่บ้าน ให้ข้อมูลว่า เป็นบ้านของ บิ๊ก ณ ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตรงกับแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูล และตรงกับวิกิพีเดีย ซึ่งคอการเมืองจะต้องติดตาม แม้พรรคพลัง จะออกสตาร์ทภายหลังและมีเวลาเพียงพอ ซึ่งพรรคการเมืองน้องใหม่ม้ามืด มาแรง แซงทุกทางโค้ง 27 พฤศจิกายนนี้ โปรดติดตามว่า ใครจะมานั่งประธานยุทธศาสตร์พรรคพลัง คอการเมือง ลุ้นกันมันส์!!!!!