วันนี้ (16 พ.ย.) เซเรน่า ณิชนัจทน์ สุดลาภา แกนนำกลุ่มรวมไทยยูไนเต็ด กล่าวถึงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน หรือ UPR (Universal Periodic Review) ว่า ตนขอให้คนไทยทุกคนควรช่วยกันจับตาประเด็นต่างๆที่รัฐบาลประกาศไป อย่าให้เป็นเพียงวาทกรรมที่สวยหรูเพียงชั่วคืน ทั้งนี้ UPR ซึ่งย่อมาจากUniversal Periodic Review โดยเป็นการนำเสนอในระดับเวทีโลก ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มที่มีสิทธิส่งรายงานUPR มีสามส่วน คือ รัฐบาลองค์การสหประชาชาติ และสถาบันสิทธิมนุษยชนรวมถึงภาคประชาสังคม สำหรับประเด็นเรื่องสิทธิที่นำเสนอจะประกอบไปด้วยประเด็นหลักๆได้แก่ การปรับปรุงเรื่องกฎหมายการซ้อมทรมาน หรือการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ , ยกระดับเรื่องอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับแรงงานทำงานบ้าน, ระบบสาธารณสุขแบบถ้วนหน้า และการช่วยเหลือ รักษา ป้องกันในภาวะวิกฤต,การส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างครอบคลุมในทุกภาคส่วน,การลดปัญหาเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
“โดยเฉพาะเรื่อง ความเท่าเทียมทางเพศ การไม่เลือกปฏิบัติ หลายคนอาจจะบอกว่าประเทศไทยให้สิทธิและโอกาส แก่ทุกเพศ อย่างเท่าเทียม ดิฉันอยากให้มองย้อนไป และค่อยๆคิดทบทวนว่าประเทศเราไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศจริงหรือ ยกตัวอย่างดิฉันเองในฐานะคนข้ามเพศและเพื่อนๆคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ในประเทศไทย พวกเราถูกเลือกปฏิบัติในทุกช่วงวัยของชีวิต และแทบจะในทุกโอกาสทางสังคม การที่พวกเราจะได้รับการรับรองจากกฎหมายการรับรองเพศ (Gender Recognition Law ) ก็ยังไม่ปรากฎ หรือการเลื่อนพิจารณา การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1448 เพื่อให้คนที่มีความหลากหลายทางเพศมีโอกาสในการสร้างครอบครัวตามกฎหมายก็ไม่สามารถทำได้ หากศาลไม่เลื่อนและประกาศรับรองเรื่องการแต่งงานของพวกเรา"เซเรน่า กล่าว
เซเรน่า ยังกล่าวต่อว่า ในเวที UPR รอบนี้ หากมีการปฏิบัติตามข้อสัญญาเหล่านี้อย่างจริงจัง ก็สามารถนำประเด็นเหล่านี้มาโชว์ให้ต่างชาติเห็นถึงความก้าวหน้าเรื่องสิทธิในประเทศไทยได้ การประกาศคำมั่น ก็ไม่ได้หมายความว่าต่างชาติจะไม่ตั้งคำถาม เพราะเราต้องยอมรับว่าในโลกปัจจุบันมีการสื่อสารที่รวดเร็ว การรับรู้ข่าวสารจากทุกมุมโลก ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทยยังมีผู้ใช้กฎหมายมาตรา112 แม้จะมีกระแสของการร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอนการยกเลิกกฎหมายดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้ตอบคำถามต่อทั่วโลกที่กำลังจับตามองว่า เรามีกฎหมายดังกล่าวเพื่อดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันอันเป็นสิ่งที่ยึดถือตามประเพณีมา