xs
xsm
sm
md
lg

“อดีต ปธ.คดีล้มละลาย ศาลฎีกา” ขวางจ่ายบำนาญ “เมทินี” พร้อมเกาะติดปมแชทไลน์หลุดล็อบบี้เลือก ก.ต.มิชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชำนาญ รวิวรรณพงษ์
“ชำนาญ” อดีต ปธ.คดีล้มละลาย ลุยร้อง “เมทินี” อดีต ปธ.ศาลฎีกา ต่อ กรณีสั่งยุติสอบแชทไลน์หลุดล็อบบี้เลือก ก.ต. มิชอบ พร้อมร้องนายกฯ-ก.คลัง ระงับการจ่ายเงินบำนาญ เหตุยังไม่พ้นจาก ขรก.ตุลาการ


เมื่อวันที่ 12 พ.ย.64 นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และทำหนังสือถึง รมว.คลัง และอธิบดีกรมบัญชีกลางเพื่อให้ตรวจสอบ นางเมทินี ชโลธร อดีตประธานศาลฎีกา หลังจากที่ มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่งประธานศาลฎีกา ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 แต่แม้จะพ้นจากตำแหน่งประธานศาลฎีกา แต่ก็ยังไม่พ้นจากการเป็นข้าราชการ จึงไม่สามารถทำเรื่องเพื่อยื่นขอบำเหน็จ บำนาญ ได้ การจะจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ ให้กับอดีตประธานศาลฎีกาได้หรือไม่นั้น ต้องได้รับอนุญาตให้ลาออกจาก คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.)

"เมื่อยังไม่ลาออกจาก ก.ต. ก็จะรับเงินบำเหน็จบำนาญไม่ได้ อยากให้มีการตรวจสอบว่า นางเมทินี มีการยื่นเรื่องขอรับเงินบำเหน็จบำนาญ ไปแล้วหรือไม่ เพราะหากได้รับไปแล้วอาจจะเกิดปัญหาว่าเป็นการรับเงินดังกล่าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ยังมีตำแหน่งข้าราชการตุลาการ เพราะเป็นกฎหมายของข้าราชการตุลาการ จะต้องเกษียณอายุราชการ เมื่ออายุ 70 ปีบริบูรณ์ แต่ปัจจุบัน นางเมทินี มีอายุเพียง 65 ปีเท่านั้น หากไม่ประสงค์จะเป็นข้าราชการตุลาการ ก็ต้องยื่นลาออกก่อน จึงจะขอรับเงินบำเหน็จบำนาญ ดังกล่าวได้ "นายชำนาญ กล่าว

นายชำนาญ กล่าวต่อว่า อดีตประธานศาลฎีกาท่านอื่นเมื่อไม่ประสงค์จะเป็น ก.ต. ก็ต้องลาออก และต้องลาออกกับ ก.ต. ด้วย เมื่อไม่ได้ลาออก ก็ขอรับเงินบำเหน็จบำนาญไม่ได้ และถ้าไม่มาทำงานที่หายไป ก็อาจจะมีปัญหาว่า ขาดราชการหรือไม่ เพราะตามประกาศสำนักนายากรัฐมนตรี นางเมทินียังไม่พ้นจากราชการ ดังนั้น ก็ต้องมาทำงาน แต่ตอนนี้นางเมทินีไม่มาทำงาน และไปอยู่ไหนก็ไม่ทราบ และเมื่อไม่มาทำงานเงินเดือนก็ไม่ควรที่จะได้รับ ทั้งนี้ เป็นหน้าที่ของ นายกรัฐมนตรี รมว.คลัง และอธิบดีกรมบัญชีกลาง ที่จะต้องตรวจสอบว่า ในช่วงที่ผ่านมา อดีตประธานศาลฎีกาได้ยื่นเรื่องเพื่อขอรับเงินบำเหน็จบำนาญไปแล้วหรือไม่ หากมาขอยื่นเพื่อรับเงินดังกล่าว ขอให้พิจารณาระเบียบการจ่ายเงิน ก่อนเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง

เมทินี ชโลธร
นอกจากนี้ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ยังกล่าวถึงกรณีการยื่นเรื่องตรวจสอบ นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล ประธานแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในศาลอุทธรณ์ กรณีมีเหตุสงสัยที่จะมีการกระทำผิดวินัยอันมีลักษณะการหาเสียงเลือกตั้ง ก.ต.บุคคลภายนอกครั้งที่ผ่านมา ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ “สภาตุลาการ” ทั้งที่อยู่ในตำเเหน่ง ก.ต. ซึ่งมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งนายชำนาญได้ร้อง ไปยัง ก.ต.ให้ทำการตรวจสอบ และร้องไปยังกรรมการ ป.ป.ช.ไว้ก่อนหน้านี้ด้วย

นายชำนาญ เปิดเผยด้วยว่า ล่าสุดตนได้รับหนังสือตอบกลับจากสำนักงานศาลยุติธรรมว่า ได้ยุติการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว โดยเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนก่อน ได้เสนอเรื่องยุติการสอบสวนไปยังอดีตประธานศาลฎีกา เพื่อมีความเห็น โดยอดีตประธานศาลฎีกา มีความเห็นสั่งยุติการสอบสวน ไปแล้ว โดยไม่มีการชี้แจงขั้นตอนการสอบสวน ว่า มีการเรียกสอบใครไปแล้วหรือไม่ รวมถึงไม่มีการเรียกสอบตนเองในฐานะผู้ร้อง ไปให้ข้อมูล แต่กลับมีความเห็นดังกล่าว

“ผมร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือสอบถามมายังสำนักงานศาลยุติธรรม ทางสำนักงานศาลฯ ได้ตอบกลับ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ยุติการสอบสวนไปแล้ว แต่ไม่ชี้แจงขั้นตอน ว่ามีการตรวจสอบอย่างไรหรือไม่ ดังนั้นก็คงต้องรอ ให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทำหนังสือตอบกลับมา ถึงขั้นตอนการตรวจสอบ ดังกล่าว ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หาก ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผมก็จะยื่นเรื่องต่อ ปปช. ให้ตรวจสอบไปในคราวเดียวกันเลย” นายชำนาญ กล่าว.


กำลังโหลดความคิดเห็น