“ฐิติเชฏฐ์” เท “สมชัย” ยกเลิกนัดพิสูจน์ตู้ไวน์แช่น้ำผลไม้ในห้องทำงานกะทันหัน แนะควรแจงสังคมให้ชัด ปล่อยผ่านทำกระทบความเชื่อมั่น เตือนเป็น กก.องค์กรอิสระต้องระวังภาพลักษณ์
วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมือง และการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีต กกต. เดินทางมาสำนักงาน กกต.เพื่อร่วมรับประทานอาหารกับ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ และไลฟ์สด เพื่อพิสูจน์ตู้ไวน์ในห้องทำงานของนายฐิติเชฏฐ์ ตามคำเชิญ หลังจากมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวทางโลกโซเชียลมีเดีย และถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม โดยเมื่อเดินทางมาถึงนายสมชัย ระบุว่า ได้รับการติดต่อจากนายฐิติเชฏฐ์ ว่า ขอยกเลิกนัดรับประทานอาหาร และไม่อยากให้มีการไลฟ์สด
นายสมชัย กล่าวว่า เมื่อวาน (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวติดต่อมาสอบถามว่า การมีตู้ไวน์ในห้องทำงานกกต.มีความเหมาะสมหรือไม่ พยายามเลี่ยงที่จะตอบ โดยบอกเพียงว่าทางสำนักงานกกต.จะต้องพิจารณาว่าเหมาะสม ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่ในอีกมิติหนึ่งการมีตู้ไวน์เป็นเรื่องของการเกินความพอดี ไม่ว่าจะเก็บไวน์ไว้จริงหรือไม่ แต่การมีตู้ไวน์เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และรสนิยม ซึ่งตนและนายฐิติเชฏฐ์ ถือได้ว่าเป็นเพื่อนรัก รู้จักกัน โดย นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวในทำนองต่อว่า ว่าไปให้ข่าวได้อย่างไร และผิดอะไรที่จะมีตู้ไวน์ไปแช่น้ำผลไม้ รวมทั้งชวนตนมาทานข้าว ซึ่งเดิมก็ไม่อยากมา แต่คะยั้นคะยอถึง 2-3 ครั้งจึงยอม และขอให้ไลฟ์สด นายฐิติเชฏฐ์ อาจฟังไม่ชัดจึงบอกว่ามาเลย จึงเดินทางมาวันนี้ แต่เมื่อมาถึงก็ได้รับการติดต่อว่าไม่สะดวก และที่จะไลฟ์ในห้องทำงานไม่อนุญาต
“ขอโทษคนที่คอยดูไลฟ์สด ที่อยากรู้ว่าในตู้ไวน์มีอะไร แต่ผมก็เชื่อว่าในตู้คงจะมีแค่น้ำผลไม้ หรือน้ำเปล่า แต่ก็เสียดายโอกาสที่จะได้ขึ้นไปพิสูจน์ เพราะท่านตัดไมตรี และทำให้ผมต้องไปหาข้าวทานเอง”
ส่วนที่มีการวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการที่ตู้ไวน์ใช้ไฟหลวง นายสมชัย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความเข้มงวดของแต่ละหน่วยงาน ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขเคยห้ามข้าราชการนำโทรศัพท์มือถือมาชาร์จไฟ หรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ห้ามนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมาชาร์จไฟ ส่วนตัวเห็นว่าเข้มงวดจนเกินไป และคิดว่าถ้าเป็นอุปกรณ์เสริมในการทำงานเช่นมือถือ ตู้เย็น ทีวี ไม่ควรเข้มงวดเพราะทีวีก็ไว้ติดตามข่าวสาร ตู้เย็นไว้แช่อาหารที่เตรียมไว้เวลาติดงานไม่สะดวกไปหาทาน แต่ในกรณีนี้ ถ้าบอกว่าเป็นตู้ไวน์เอาไว้แช่น้ำเปล่า ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะเป็นตู้เย็นประเภทหนึ่ง แต่มันเป็นเรื่องการเกินความพอดี เพราะสัดส่วนของราคาตู้เย็นกับตู้ไวน์ แตกต่างกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสำนักงานฯในการพิจารณา
“ส่วนตัวผมกับท่านฐิติเชฏฐ์ เป็นเพื่อนกัน ก็ไม่เคยเห็นท่านดื่มไวน์จะเห็นดื่มแต่น้ำอัดลม กับน้ำเปล่า แต่ท่านก็บอกว่ามีตู้ไวน์ 2 ตู้ที่บ้าน เลยนำมาไว้ที่ทำงานตู้นึง ก็ไม่เข้าใจว่าถ้าไม่ใช่คนดื่มไวน์จะมีตู้ทำไม ซึ่งภาพที่ออกไป คนที่เป็นองค์กรอิสระ ควรต้องระมัดระวังตัวเพราะอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด สมัยผมเป็นกกต.ผมได้รับการเตือนจากกกต.ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่าเราต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภาพลักษณ์ที่จะไปกระทบต่อการทำงาน อย่าไปแสดงออกว่าเราชอบอะไรเพราะเขาก็จะเอาของนั้นมาให้ สมมติส้มโอ 2 ลูก เราก็คิดแค่ว่าเป็นส้มโอ แต่เขาก็เอาภาพที่ถ่ายคู่ไปแสดงว่า ได้เข้าพบ กกต. ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขามีความสนิทสนมกับกกต.เป็นพิเศษ หากมีเรื่องการร้องเรียนคดีต่างๆก็อาจจะติดต่อผ่านเขาได้”
นายสมชัย กล่าวอีกว่า หากมีโอกาสอยากให้นายฐิติเชฏฐ์ได้ชี้แจงกับสื่อ และน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ ดีกว่าเพิกเฉยและปล่อยเรื่องผ่านไป เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะเกิดความสะสมในใจคน ว่ารสนิยมของคนในองค์กรอิสระเป็นอย่างนี้ และอาจกระทบความเชื่อถือของคณะบุคคลในการพิจารณาวินิจฉัยคดี นอกจากนี้ในส่วนของสำนักงานก็ไม่อยากให้มีความไปโทษว่า สำนักงานประชาสัมพันธ์ผิดพลาดในการลงรูป หรือเอารูปออกจากเพจของสำนักงานกกต. เพราะจุดเริ่มต้นถ้ามันไม่มีตู้ไวน์ในห้องทำงาน หรือไม่มีการเอารูปออกจากเพจก็ไม่เป็นข่าว เหมือนกับวันนี้ถ้าให้ตนขึ้นไปทานข้าวและไลฟ์สด ก็จะไม่เป็นข่าว แต่พอไม่ให้ขึ้น มันก็กลายเป็นข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 11.00 น. นายสมชัย ได้รับประทานอาหารในศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ และมีการไลฟ์สด โดยแจ้งว่าถูกนายฐิติเชฏฐ์ยกเลิกนัดทานข้าวกลางวัน