xs
xsm
sm
md
lg

“การเคหะแห่งชาติ” ร่วมทุนภาคเอกชนจัดตั้ง บมจ.เคหะสุขประชา ลุยบ้านเช่าราคาถูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ผู้ว่าการเคหะฯ” เผยร่วมทุนภาคเอกชน จัดตั้ง บมจ.เคหะสุขประชา ลุยบ้านเช่าราคาถูก เริ่มต้นเดือนละ 1,500 บาท พร้อมอาชีพหวังยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการเคหะแห่งชาติว่า ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พ.ย. มีมติเห็นชอบในหลักการการจัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด(มหาชน) หรือ บมจ. เคหะสุขประชา (K-HA) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอแล้ว พร้อมเพิ่มวงเงินดำเนินการและเบิกจ่ายลงทุน จำนวน 245 ล้านบาท ตามสัดส่วนที่การเคหะแห่งชาติ ถือหุ้น 49% จากทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติ นำรูปแบบแนวทาง PPP (Public Private Partnership) ตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มาใช้ในการดำเนินโครงการ

สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นใน บมจ. เคหะสุขประชา การเคหะแห่งชาติจะถือหุ้น 49% คิดเป็นเงินลงทุน 245 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินลงทุนจากภาคเอกชน โดยเป็นธุรกิจอื่นๆ อีก 7 กลุ่มถือหุ้นในสัดส่วนรวมกัน 51% อาทิเช่น ธุรกิจค้าปลีก เกษตร เฮลท์แคร์ ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างและอุตสาหกรรม ซึ่งแต่ละรายจะถือหุ้นได้ในสัดส่วนไม่เกิน 15%

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ในอนาคตการเคหะแห่งชาติ มีแผนนำ บมจ. เคหะสุขประชา เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อสร้างความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลให้กับบริษัทฯ และสามารถระดมทุนในการนำมาก่อสร้าง โครงการบ้านเคหะสุขประชาตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งในปี 2565 วางแผนก่อสร้างบ้านจำนวน 30,000 หน่วย โดยวางเป้าหมาย 5 ปี (พ.ศ.2564 - 2568) สร้างบ้านรวม 100,000 หน่วย

ทั้งนี้ “บมจ.เคหะสุขประชา” จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภาคที่อยู่อาศัย รวมทั้งยกระดับเศรษฐกิจในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยในชุมชน โดยโครงการ “บ้านเคหะสุขประชา” วางคอนเซ็ปต์เป็น “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” เข้าไปช่วยเหลือทั้งด้าน “ที่อยู่อาศัย” และ “ที่ทำกิน” สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งการเคหะแห่งชาติ มีแผนดำเนินงานดังนี้

1. พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคที่อยู่อาศัย โดยจัดทำโครงการบ้านเช่าฯ จำนวน 100,000 หน่วย ภายใน 4 ปี (ปี 2565-2568) แบ่งเป็น ปี 2565-2566 ปีละ 30,000 หน่วย และปี 2567-2568 ปีละ 20,000 หน่วย โดยรูปแบบที่อยู่อาศัยครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1. กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร ค่าเช่า 1,500 บาทต่อเดือน 2. กลุ่มผู้มีสถานะโสด พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร ค่าเช่า 2,000 บาทต่อเดือน 3. กลุ่มครัวเรือนใหม่ พื้นที่ใช้สอย 40 ตารางเมตร ค่าเช่า 2,500 บาทต่อ เดือน และ 4. กลุ่มครอบครัว
พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร ค่าเช่า 3,500 บาทต่อเดือน ประมาณการรายรับภายใน 4 ปี (ปี 2565-2568) 60,000 ล้านบาท

2. รับซื้อทรัพย์สินมาบริหารการขาย โดยรับซื้ออาคารคงเหลือของการเคหะแห่งขาติ เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร ประมาณ 18,000 หน่วย ภายใน 2 ปี (ปี 2564-2566) ปีละ 9,000 หน่วย นำมาบริหารการขาย 4 ปี (ปี 2565 จำนวน 7,200 หน่วย ปี 2566 จำนวน 6,000 หน่วย ปี 2567 จำนวน 1,800 หน่วย ปี 2568 จำนวน 3,000 หน่วย) ประมาณการมูลค่าการขายรวม 10,890 ล้านบาท

3. พัฒนาและบริหารชุมชน โดยจะบริหารชุมชนของโครงการบ้านเช่าฯ และรับจ้างดูแลโครงการตามแผนแม่บทฯ รวมจำนวน 200,000 หน่วย โดยจะคิดค่าดำเนินการพัฒนาธุรกิจ 5% ของรายได้ 40,000 บาทต่อครอบครัว ประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี

4. พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (เศรษฐกิจสุขประชา) ในพื้นที่โครงการบ้านเช่า ประมาณ 330 โครงการ อาทิ ตลาดนัดชุมชน ร้านสะดวกซื้อ เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น ประมาณการรายรับ 2,400 ล้านบาทต่อปี
5. บริหารทรัพย์สินรอการพัฒนา Sunk cost จำนวน 94 แปลง (4,571 ไร่) มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท ประมาณการรายได้พึงรับ 125 ล้านบาท/ปี

“บมจ.เคหะสุขประชา เป็นรูปแบบการร่วมทุนของภาครัฐและเอกชน เพื่อจะพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้มีรายได้น้อย ตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579) อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในทุกระดับ เพื่อนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” นายทวีพงษ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น