“อนุทิน” เรียกประชุม บุคลากร สธ.3 ภูมิภาค รับมือเปิดประเทศ ย้ำเป้าเร่งคืนชีวิตประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติ
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อม การเปิดประเทศ และรองรับการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 : ภาคกลาง โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ ผู้บริหารและคณะทำงาน ศปก.ศบค. ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานระดับพื้นที่ 25 จังหวัด ใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก รวมถึงผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน
นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่คงที่ต่อเนื่อง ผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้เสียชีวิตลดลง ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งล่าสุด รัฐบาลโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเปิดประเทศ ให้เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้า และประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิต ที่กระทรวงสาธารณสุข ต้องสนับสนุนภารกิจนี้อย่างสุดความสามารถ เรื่องการให้บริการวัคซีนโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญมาก ปัจจุบัน ให้บริการได้มากกว่า 80% ของเป้าหมายแล้ว ขอย้ำว่า วัคซีนที่รัฐบาลนำมาให้บริการมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย การกระจายวัคซีน มีหลักการรองรับ จังหวัดที่ระบาดมาก ต้องได้วัคซีนมากกว่า ตอนนี้ ต้องรณรงค์ให้ประชาชนมารับวัคซีนให้มากที่สุด ภาครัฐเตรียมวัคซีนไว้แล้ว ต้องให้ทาง สสจ.จังหวัด, ฝ่ายปกครอง เข้าไปช่วยเหลือ นอกจากวัคซีน เราได้เตรียมพร้อมในส่วนของการคัดกรอง และรักษาพยาบาล ได้นำประสบการณ์ มาปรับใช้ กระทรวงสาธารณสุข ยังมีส่วนสำคัญ นอกจากการปราบโรค คือ การปราบผี ที่ผ่านมา เรามีผีที่คอยเอาเปรียบประชาชน ค้ากำไรเกินควร กับสุขภาพประชาชน ยกตัวอย่าง จากในอดีต ที่เคยมีการขายหน้ากากอนามัย ในราคาสูงมาก ตนได้สั่งให้ สธ.ขึ้นไลน์การผลิตไปเลย ทำให้ราคาต่ำลง เราจะไม่ให้มีการเอาเปรียบประชาชน เรื่อง ยาก็ต้องเตรียมพร้อม ทุกวันนี้ เราสามารถผลิตยาสำคัญได้เองแล้ว ขอย้ำว่า เราต้องทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้า และสุขภาพของคนไทย ก็ต้องปลอดภัยด้วย
“ขอสื่อสารไปถึงบุคลากรการแพทย์ ว่า ทางรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำงานของท่าน ขณะที่ประชาชน รัฐบาลให้ความสำคัญกับท่านเป็นลำดับแรก เรากำลังจัดหายาใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพเข้ามาเพิ่ม เราเร่งฉีดวัคซีน นี่คือความตื่นตัวของรัฐบาล มีเสียงถึงเรื่องขั้นตอนการเข้าประเทศ ซึ่งอาจจะช้า ไม่ทันใจ ตรงนี้ กำลังหาทางแก้ไข แต่ความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดับต้นๆ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้วางแผนรองรับนโยบายเปิดประเทศ ภายใต้มาตรการ 5 ด้าน ได้แก่
1. ด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค ก่อนเดินทาง ผู้เดินทางต้องเตรียมหลักฐานการฉีดวัคซีน/ประกันสุขภาพ วงเงินไม่น้อยกว่า 50,000 USD/ผลตรวจหาเชื้อโควิด 19 ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง/หลักฐานการจองที่พัก/บันทึกข้อมูลใน Thailand Pass และเมื่อมาถึงประเทศไทย ต้องตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ด้วยวิธี RT-PCR และวิธี ATK ในครั้งที่ 2 ด้วยตนเองเมื่อมีอาการ หรือในวันที่ 6-7
2. ด้านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ สำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ ด้วยวิธีที่แม่นยำ หากพบการติดเชื้อ ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที 3.ด้านมาตรการ COVID Free Setting ที่สถานประกอบการ ต้องให้บริการบนพื้นฐานความปลอดภัย ตามแนวทางที่วางไว้
4. ด้านการการแพทย์และสาธารณสุขที่สอดคล้องกับสถานการณ์ นำมาตรการปรับรูปแบบการรักษาเข้าสู่การแพทย์วิถีใหม่ ป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล และ 5. ด้านการสำรองเวชภัณฑ์และการส่งกำลังบำรุง สามารถจัดหายาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติมต่อเนื่องตลอดเวลา