กกต. เผย ผลสมัครเลือกตั้งนายก และ สมาชิก อบต.ทั่วประเทศรวม 136,250 คน โคราชมากที่สุด ตามมาด้วยศรีสะเกษ สุรินทร์ น้อยสุดเป็นภูเก็ต
วันนี้ (18 ต.ค.) สำนักงาน กกต.ได้เปิดเผยผลการสมัครเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่กกต.เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า มีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ 76 จังหวัด รวมจำนวน 136,250 คน แบ่งออกเป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 12,309 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 123,941 คน
โดยจังหวัดที่มีผู้สมัครสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. จ.นครราชสีมา จำนวน 7,333 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 554 คน และสมาชิก อบต.จำนวน 6,779 คน 2. จ.ศรีสะเกษ จำนวน 5,621 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 479 คน และผู้สมัครสมาชิก อบต. จำนวน 5,142 คน 3. จ.สุรินทร์ จำนวน 5,062 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต. จำนวน 371 คน และผู้สมัครสมาชิก อบต. จำนวน 4,691 คน
4. จ.อุบลราชธานี จำนวน 4,823 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 415 คน ผู้สมัครสมาชิก อบต. จำนวน 4,408 คน 5. จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 4,445 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 349 คน ผู้สมัครสมาชิก อบต.จำนวน 4,096 คน
6. จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3,761 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 361 คน ผู้สมัครสมาชิก อบต.จำนวน 3,400 คน 7. จ.มหาสารคาม จำนวน 3,686 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 294 คน และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก อบต.จำนวน 3,392 คน
8. จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 3,609 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 325 คน และผู้สมัครสมาชิก อบต.จำนวน 3,284 คน 9. จ.ชัยภูมิ จำนวน 3,322 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 262 คน ผู้สมัครสมาชิก อบต. จำนวน 3,060 คน 10. จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 3,176 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต.จำนวน 280 คน ผู้สมัครสมาชิก อบต. จำนวน 2,896 คน
ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุด คือ จ.ภูเก็ต จำนวน 121 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครนายก อบต. 17 คน และผู้สมัครสมาชิก อบต.จำนวน 104 คน ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะตรวจสอบความถูกต้องของการสมัครของผู้สมัคร และตรวจสอบว่าผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ตามมาตรา 52 วรรคสาม และวรรคสี่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562
เมื่อเห็นว่า ถูกต้องและผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้ประกาศรายชื่อผู้สมัครภายใน 7 วัน นับแต่วันปิดรับสมัครไว้ โดยเปิดเผย ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่อื่นที่เห็นสมควร
รวมทั้งปิดประกาศคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 49 และมาตรา 50 ไว้ ณ ที่ปิดประกาศ ดังกล่าวด้วย