“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” โพสต์ระบายความในใจ หลังเข้าเป็นสมาชิก พปชร.แล้วเจอกระแสต้าน แจง 6 ข้อ เป็นสมาชิกพรรค ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีการเสนอเงื่อนไขใดๆ และไม่มีอะไรลึกลับซ่อนเงื่อน
วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์ขัอความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค - Pirapan Salirathavibhaga” ถึงกระแสต่อต้านหลังสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ว่า
ไปกันใหญ่
ผมไม่เคยคาดคิดว่าการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ของผม จะถูกนำไปวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ ตีความ โยงกันจนวุ่นวายสับสนเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่รู้ไปเอาข้อมูลมาจากไหน ผมเองยังไม่เคยรู้เรื่องเลย ผมให้สัมภาษณ์ปฏิเสธหลายครั้ง แต่ก็ยังวิเคราะห์วิจารณ์กันอยู่แบบเดิมอีก เพื่อความชัดเจนและเป็นคำพูดของผมเอง โดยไม่ต้องไปอ้างแหล่งข่าวลึกลับซับซ้อนซึ่งหาตัวตนไม่ได้ ผมขอยืนยันข้อเท็จจริงของการเข้าเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ของผมดังนี้ครับ
1. ผมไม่มีเงื่อนไขและไม่มีการเสนอเงื่อนไขใดๆ ให้ผมในการเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค พปชร. เป็นการสมัครเป็นสมาชิกธรรมดาๆ ไม่มีอะไรลึกลับซ่อนเงื่อน
2. ผมได้พูดคุยกับท่าน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.มานานมากตั้งแต่ปี 2563 เกี่ยวกับความตั้งใจของท่านที่จะสร้างพรรค พปชร. ให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็งเป็นหลักให้บ้านเมืองต่อไป ซึ่งท่านไม่เคยเปลี่ยนความคิด มีแต่ความมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ ทำให้ผมอยากช่วยท่านในเรื่องนี้ แต่ติดขัดเรื่องงานต่างๆ ที่ต้องดำเนินการให้เสร็จตามเวลา จึงเรียนท่านว่าเมื่องานเบาลงจะมาช่วยท่าน
3. ประมาณเดือนเมษายน 2564 งานต่างๆ พอจะเบาลง จึงเรียนให้ท่านหัวหน้าฯ ทราบ แล้วกรอกใบสมัครโดยท่านหัวหน้าฯ เป็นผู้ลงนามรับรองผมด้วยตัวท่านเอง แต่ปรากฏว่า เกิดการแพร่ระบาดของโควิด ที่ทำการพรรคปิดไม่มีกำหนด สมัครไม่ได้ และการประชุมใหญ่พรรคในเดือนเมษายน 2564 ก็ถูกยกเลิกไป
4. กลางเดือนกันยายน 2564 ผมมีโอกาสพูดคุยกับท่านหัวหน้าฯ ซึ่งท่านก็ยังมีความมุ่งมั่นจะสร้างพรรค พปชร. ให้เป็นสถาบันและเป็นหลักของบ้านเมืองให้ได้ และอยากให้ผมมาช่วยทำงานเช่นเดิม ผมจึงให้เจ้าหน้าที่ของผมสอบถามไปทางที่ทำการพรรคทราบว่าเจ้าหน้าที่พรรคจะมาทำงานเป็นช่วงเวลาหรือตามที่นัดหมายเท่านั้น
5. เจ้าหน้าที่ของผมได้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่พรรค ว่า ประมาณต้นเดือนตุลาคม 2564 จะนำใบสมัครของผมไปยื่นให้
6. เมื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยโดยใช้ใบสมัครที่เตรียมไว้เดิมตั้งแต่เดือนเมษายนที่ท่านหัวหน้าฯ ลงนามรับรองให้แล้ว ท่านหัวหน้าฯ ก็แต่งตั้งผมเป็น “ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค” เพื่อมาช่วยท่านทำงาน ซึ่งเป็นดุลพินิจและเป็นอำนาจของท่านเองทั้งสิ้นก็เท่านั้น
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองอย่างที่วิเคราะห์วิจารณ์กันในขณะนี้เลยครับ