“รณกาจ” กก.อำนวยการ พรรคไทยสร้างไทย ตอกกระแส #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ ประจานรัฐคิดไม่รอบคอบซ้ำซาก ชี้เจตนาดีแต่สร้างภาระให้กับประชาชน แนะคิดให้รอบคอบรัดกุม อย่าซ้ำเติม ปชช.ในภาวะวิกฤต
วันนี้ (11 ต.ค. 64) นายรณกาจ ชินสำราญ คณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาพรรค พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่ #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ ติดแฮชแท็กอันดับต้นๆบนทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 64 ว่า เรื่องนี้ต้องมองทั้ง 2 มุม นอกจากมองมุมของกฏกติกาที่รัฐวางไว้แล้ว ยังต้องมองถึงเรื่องความรัดกุมเหมาะสม ในเงื่อนไข และให้ความยุติธรรมกับร้านค้าและผู้ประกอบการด้วย เพราะแน่นอนว่าโครงการเยียวยาและแจกเงินอุดหนุนให้กับประชาชนและร้านค้าเป็นเจตนาที่ดี แต่ถ้าให้ดีขึ้นไปอีก รัฐควรทำกติกาเงื่อนไขให้รัดกุม คิดให้จบ มองภาพให้ครบทุกด้านแล้วอุดช่วงโหว่ให้ครบ เพื่อสร้างความเป็นธรรม และเอื้อประโยชน์สุงสุดให้กับทุกฝ่ายที่นำไปใช้
“การนำไปใช้ผิดประเภทหรือตั้งใจทุจริตของร้านค้าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ แต่รัฐควรให้ความเป็นธรรมและชี้แจงอย่างเป็นเหตุเป็นผลกับทุกคนด้วย มีตัวอย่างที่ร้านค้าได้จดหมายเรียกเงินคืน แต่ไม่ได้ชี้แจงว่าทำผิดเงื่อนไขในลักษณะไหนเพื่อที่ร้านค้าจะได้ยื่นอุทรณ์ได้ตรงจุด หรือแม้แต่การเรียกเงินคืนที่รวมไปถึงส่วนต้นทุนของร้านค้าด้วย ไม่ได้แค่เรียกคืนเฉพาะส่วนที่รัฐอุดหนุนมา” นายรณกาจ ระบุ
นายรณกาจ กล่าวต่อว่า มีร้านค้าหลายรายที่ได้รับจดหมายเรียกเงินคืนหลักหลายแสนบาทไปถึงหลักล้านบาท หลายคนตกใจและไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดเงื่อนไขในลักษณะใด ต้องการการชี้แจงเพิ่มเติมจากรัฐเพื่อให้เกิดความยุติธรรม และไม่เกิดเป็นภาระต่อประชาชน
“โครงการช่วยเหลืออุดหนุนต่างๆของรัฐตั้งแต่ช่วงโควิดปีที่แล้ว หลายโครงการเป็นโครงการที่ดีเจตนาดี แต่บ่อยครั้งที่เราเห็นตลอดมาว่ารัฐคิดไม่ครบ คิดไม่จบ ไม่รอบคอบ ไม่รัดกุม พอเกิดปัญหาก็ผลักให้ประชาชนเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบตลอด รัฐไม่ได้ช่วยให้ปัญหามันง่ายขึ้นเลย” นายรณกาจ กล่าว
นายรณกาจ กล่าวอีกว่า ในสถานการณ์แบบนี้ทั้งโรคระบาดและเศรษฐกิจสาหัส ประชาชนแค่แก้ปัญหาของตัวเองก็ไม่มีเวลาเหลือแล้ว ยังต้องมาร่วมแก้ปัญหาจากการที่รัฐคิดไม่รัดกุมจนเกิดช่องโหว่แบบนี้อีกทุกครั้ง อีกครั้งที่ตนขอเรียกร้องให้รัฐคิดให้รอบคอบในการออกโครงการต่างๆ และให้ความยุติธรรมกับประชาชนและคนทำมาค้าขายทุกคน เพื่อที่โครงการดีๆจะได้ไม่เป็นภาระกับประชาชน