(วันนี้ 8 ต.ค.) น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ส.ส.ลพบุรี เขต 2 พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลพบุรี ว่า ลพบุรี เป็นพื้นที่น้ำท่วมแบบซ้ำซาก และรับน้ำแทนพื้นที่เขตเศรษฐกิจ ชาวนาได้รับผลกระทบอย่างหนัก และเริ่มโอดครวญถึงเงินเยียวยาที่ได้ไม่สมเหตุสมผลกับสิ่งที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งชาวลพบุรีทราบดีว่า หากเกิดน้ำท่วม เป็นเพราะการกันน้ำเพื่อไม่ให้ไหลลงไปกระทบพื้นที่เศรษฐกิจอื่น เช่น กรุงเทพฯ ชาวบ้านคิดว่าเขาเป็นประชาชนชั้น 2 ที่ไม่สามารถมีปากมีเสียงได้
น.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า ขอฝากผ่านไปยังทุกธนาคาร โดยเฉพาะ ธ.ก.ส. ว่า ขอให้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างจริงจัง โดยการหยุดคิดดอกเบี้ย ไม่ใช่การพักต้นพักดอก เพราะการพักต้นพักดอกนั้นคือ แค่การพักไม่ต้องให้ไปจ่าย แต่ดอกเบี้ยยังเดินทุกวัน ควรที่จะหยุดคิดดอกเบี้ย ถึงจะเป็นการช่วยชาวนาได้จริง นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบที่มีการผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ขอให้ทางรัฐบาล กระทรวงการคลัง ช่วยเจรจากับสถาบันการเงินเรื่องการลดดอกเบี้ยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยด้วย
ในส่วนการแจกถุงยังชีพนั้นได้มีการลงพื้นที่ทุกวัน บางตำบลจะนำของไปไว้ที่ศูนย์อพยพ และให้ผู้นำชุมชนมารับไปแจกจ่าย อีกทั้งมีการตั้งครัวบนบก และนำอาหารไปส่งให้กับผู้ที่ประสบภัยด้วย
ขณะที่ด้านการสาธารณสุขในพื้นที่นั้น มี อสม. ลงพื้นที่สำรวจผู้ป่วยเป็นระยะ อาทิ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ สำหรับชาวบ้านที่ต้องการอยู่บ้าน จะมีแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ดูระดับน้ำ หากว่าน้ำสูงขึ้นก็จะมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทันที แต่อุปสรรค และปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การสัญจร ถ้าหากศูนย์ใดที่ไม่มีเรือในส่วนกลาง ก็จะตระเวนรับ-ส่ง เป็นเวลา เริ่มตั้งแต่ 07.00-22.00 น.
ขณะที่เรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 มั่นใจว่า ในพื้นที่การ์ดไม่ตกอย่างแน่นอน เพราะมีการให้บริการไปรับ-ส่ง ประชาชนไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลชั่วคราว เทศบาลเมืองบ้านหมี่ แต่ทั้งนี้จะต้องมีการวางแผนว่า มีผู้รับบริการฉีดวัคซีนกี่ราย โดยทาง อบต. จะมีการจัดระบบขนส่งเป็นทอดๆ เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์ฉีดวัคซีน ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ทำให้เห็นถึงเรื่องของการบริหารจัดการส่วนท้องถิ่น โดยทางส.ส. และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ได้มีความพยายามผลักดัน และกระจายอำนาจลงไปตามท้องถิ่นเพื่อให้ชุมชนต่างๆ ได้บริหารจัดการกันเอง
อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ทางภาครัฐจัดการวางแผนรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมให้มากกว่านี้ ต้องคิดแล้วว่า ถ้าหากมีมวลน้ำมาอีก จะนำน้ำไปไว้ตรงไหน ต้องสร้างอ่างเก็บน้ำหรือไม่ ซึ่งด้วยกำลังเงินของท้องถิ่นไม่ได้มีจำนวนมากพอที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ หรือการจะสร้างกระทำการใดๆ จะมีปัญหาเรื่องที่ดินเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากว่าในพื้นที่ส่วนใหญ่จะไปติดกับที่ทหาร จึงไม่สามารถที่จะสร้างพื้นที่เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนได้ และถ้าหากชาวบ้าน อ.บ้านหมี่ ไม่ยอมให้น้ำไหลเข้าอำเภอ แน่นอนว่ามวลน้ำก็จะเข้าไปยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
น.ส.มัลลิกา กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า แม้ลพบุรี เป็นจุดรับน้ำแทนกรุงเทพฯ ขณะนี้น้ำในทุ่งบางจุดของ อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ชาวนาขอเกี่ยวข้าวก่อน มีการระบายน้ำไปบ้างแล้ว ซึ่งชาวนาบอกว่า ถ้าเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วเขาจะปล่อยให้พื้นที่เป็นพื้นที่รับน้ำเขาก็ยอม เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่เรื่องการชดเชยรายได้ ไม่มีใครมารับรองได้ว่าจะชดเชยให้อย่างไร หากชดเชยราคาตามราชการ 1,340 บาท/ไร่ และไม่เกิน 30 ไร่/คน คือน้อยเกินไป เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมากกว่านั้น ถ้าหากรัฐบาลชดเชยให้มากกว่านี้ ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง