วันนี้ (1 ต.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันทางทะเลโลกประจำปี 2564 “SEAFARERS : AT THE CORE OF SHIPPING’S FUTURE” โดยมี นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่าผู้บริหารกรมเจ้าท่า คณะอนุกรรมการจัดงานวันทางทะเลโลกทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้แทนหน่วยงานราชการและประชาชน ร่วมกิจกรรม ผ่านระบบ Zoom Meeting
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ประเทศไทยเริ่มมีการค้าขายทางเรือและขนส่งสินค้าทางน้ำมาอย่างยาวนาน ด้วยยุทธศาสตร์ด้านภูมิศาสตร์ที่ติดทั้งทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นที่รู้จักในระดับโลก ซึ่งการขนส่งทางน้ำเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาลไทยภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งหมายให้ประเทศไทยมีความอยู่ดี กินดี พึ่งพาตนเองได้ และมีศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนคนไทยทุกคน ด้วยปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งของโลกและของประเทศไทยต้องอาศัยการขนส่งสินค้า น้ำมันเชื้อเพลิง อาหาร และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ผ่านทางเรือมากขึ้น ทำให้การขนส่งทางทะเล เปรียบเสมือนกระดูกสันหลัง รวมทั้งเป็นเส้นทางของการค้าขายระหว่างประเทศและตลาดโลกมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นรูปแบบการขนส่งหลักที่จะช่วยสนับสนุนพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ของกระทรวงคมนาคม “คนประจำเรือ” นับเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของการขนส่งสินค้าทางน้ำ สอดคล้องกับที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO ได้เห็นความสำคัญกับคนประจำเรือ และกำหนดเป็นหัวข้อของการจัดงานในปีนี้ คือ “SEAFARERS : AT THE CORE OF SHIPPING’S FUTURE”
กรมเจ้าท่า (จท.) กระทรวงคมนาคม ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักของคณะอนุกรรมการจัดงานวันทางทะเลโลก ได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันทางทะเลโลกเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นไปตามความมุ่งมั่นของ IMO ที่ต้องการให้ประเทศสมาชิกพร้อมใจกันจัดกิจกรรม เพื่อระลึกถึงความทุ่มเทอุตสาหะของคนประจำเรือในการปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนการขนส่งสินค้าทางน้ำในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับกิจกรรมวันทางทะเลโลก ประจำปี 2564 จท. ได้จัดกิจกรรมการเสวนาเรื่อง “คนประจำเรือ : หัวใจแห่งอนาคตของการขนส่งสินค้าทางน้ำ” และการประกวดสุนทรพจน์ ในหัวข้อ “SEAFARERS : AT THE CORE OF SHIPPING’S FUTURE” ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านระบบทางไกล ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนประจำเรือ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของการขนส่งสินค้าทางน้ำ พร้อมแสดงถึงเจตจำนงตามนโยบาย “Leave no one behind” เพื่อยืนหยัดในการสนับสนุนการอำนวยความสะดวก รวมทั้งการแก้ไขปัญหาของคนประจำเรือที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในทุกๆ ด้าน เพื่อสนับสนุนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และสามารถขับเคลื่อนการขนส่งทางน้ำ สนับสนุนห่วงโซ่อุปทานของโลกต่อไป