นายกฯ ตรวจเยี่ยม Factory Sandbox โรงงานมิตซูบิชิ แหลมฉบัง พร้อมส่งเสริมการลงทุนรถไฟฟ้าเพิ่ม ย้ำสถานการณ์โควิดยังทรงๆ ขอให้ร่วมทำพื้นที่ปลอดภัยพร้อมปลดล็อกกิจกรรมให้ ยืนยันจะทำบ้านเมืองสงบให้ได้ อ้อนฝากรักษาหัวใจดวงนี้ไว้ด้วย
วันนี้ (17 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) จ.ชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ Factory Sandbox ว่า วันนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี ต้องขอขอบคุณท่านประธานบริษัท ตลอดจนลูกจ้างพนักงานทุกคนที่ให้การต้อนรับตนอย่างดียิ่ง และได้สรุปรายงานถึงการปฏิบัติการตามมาตรการของรัฐบาลในเรื่อง Factory Sandbox ก็ทำให้เกิดความปลอดภัยขึ้นในสถานที่ประกอบการ ตนได้พูดคุยกับประธานบริษัทไปแล้ว ว่า เราพร้อมจะส่งเสริมการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย นอกจากในเรื่องของรถปกติที่ใช้น้ำมัน ในเรื่องการพัฒนาของเราไปสู่การใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และการแก้ปัญหาลดโลกร้อนเราด้วย ในเรื่องการลดอุณหภูมิโลกให้ลดลงเหลือไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้นต้องเดินหน้าไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้เป็นนิวตรอนในอีกหลายปีข้างหน้า ทั้งหมดคือวาระของโลก ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมก็จำเป็นต้องปรับตัว ซึ่งท่านประธานบริษัท ได้แจ้งแนวทางให้ตนทราบแล้วจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อร่วมมือกับรัฐบาล
นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้รับการยืนยันว่าเรากำลังพยายามทำอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้มีเตียงว่างมากขึ้นในการนำคนเข้าสู่ระบบการรักษา รวมถึงมีการตรวจด้วย ATK และ และ RT-PCR โดยจะเห็นว่าตัวเลขยังทรงๆ อยู่ ขณะเดียวกัน ต้องดูตัวเลขอีกครั้งว่าสิ่งที่ได้ทำเชิงรุกไปมากและตัวเลขเพิ่มขึ้นไม่มาก ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องไปดูว่ายอดคนรักษาหายด้วย ซึ่งบางทีตัวเลขใกล้เคียงกันหรือมากกว่า อย่างไรก็ตามวันนี้เรายังมีเรื่อง bubble and seal และ Sandbox อะไรต่างๆ ซึ่งเราต้องอยู่กับโรคนี้ไปอีกนาน ดังนั้น เราจะอยู่อย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดมาตรการทางสังคมต้องช่วยกันดูแล ช่วยกันรักษาและช่วยกันเตือน โดยหลายธุรกิจที่ปิดไปในช่วงนี้ก็เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขซึ่งตนต้องฟังหมอ แต่หากเราทำให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ก็จะสามารถปลดล็อกให้ได้ในหลายกิจกรรมที่รออยู่ ย้ำว่าตนเข้าใจดีถึงความต้องการจากประชาชนทุกคน
“”นนี้ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรก็ตาม ผมในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล จะไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักทั้งประเทศ เป็นความรับผิดชอบมากขนาดนั้น ไม่ใช่แค่ชลบุรีอย่างเดียว แต่อยากให้ประเทศไทยปลอดภัยจากโควิด หรือเราจะอยู่ร่วมกับโควิดได้อย่างไร Universal Prevention โลกยุคหลังโควิด ไม่ใช่โลกใบเดิมของเราอีกแล้ว เราต้องอยู่อย่างนี้อีกนานและวันหน้าคิดว่าระบบสุขภาพเราดีที่สุดในโลกแล้วตอนนี้ เพราะเราทำหลายอย่างที่หลายประเทศยังไม่ได้ทำ หลายประเทศที่มาพบผมก็พร้อมอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตราการเปิดประเทศภูเก็ต sandbox เขาก็ตามอยู่หลายประเทศก็จะเอาไปทำ นี่เป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยขอให้เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ขอให้รับฟังข่าวสารจากรัฐบาลด้วย เพราะวันนี้สังคมโซเชียลไม่สามารถควบคุมได้มากนัก จึงขอให้ทุกคนมีภูมิต้านทานในการเชื่อ ในการอ่าน ในการเสพและในโพสต์ส่งต่อ บ้านเมืองจะได้สงบเสียที ซึ่งตนยืนยันจะทำให้บ้านเมืองสงบให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนและพวกเราทุกคน และ ส.ส.ทุกคนก็อยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ตนอยู่ฝ่ายบริหาร ส่วนเรื่องของความยุติธรรมเป็นอำนาจตุลาการ ซึ่งมีอยู่ 3 อำนาจ ตนจะทำหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ดีที่สุด โดยร่วมมือกับฝ่ายนิติบัญญัติในการเดินหน้าประเทศไทยไปให้ได้ เราต้องพลิกโฉมประเทศไทยไปให้ได้
อย่างไรก็ตาม วันนี้อยู่ในขั้นตอนฟื้นฟูเยียวยา โดยต้องวางอนาคตให้ได้ เพื่อจะพลิกโฉมประเทศไทยได้อย่างไรจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงให้ได้ ซึ่งต้อง ทำทุกอย่างแล้วทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนทั้งสิ้นต้องร่วมมือกับรัฐบาล เข้าใจซึ่งกันและกันถึงจะไปได้
ในช่วงท้าย นายกฯ กล่าวว่า “ขอให้ทุกคนปลอดภัยทั้งที่มารับผม ไม่ได้มารับอยู่ที่บ้าน ฝากหัวใจไว้กับชาวชลบุรีด้วยแล้วกัน รักษาหัวใจดวงนี้ของผมไว้ให้หน่อย ผมจะได้แข็งแรงในการทำเพื่อประเทศชาติ ผมยืนยันข้าราชการทุกคนตลอดเวลาที่ผ่านมาผมก็ดูแลและให้ความเป็นธรรมกับเขา ให้เขาได้ทำงานมีการริเริ่มมีวิสัยทัศน์ที่ดีสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ไม่เช่นนั้น รัฐบาลกำหนดมาก็ทำไม่ได้ ซึ่งผมก็จะรับไปแก้ไขให้ได้มากที่สุด ขอบคุณทุกคน ขอบคุณในรอยยิ้มและขอบคุณกำลังใจที่ให้กับผม ผมจะทำให้ทุกท่านให้ประชาชนคนไทยมีความสุขให้ได้ ก็ต้องใช้เวลามากพอสมควร เพราะปัญหาเราเยอะ ขอบคุณทุกคนและขอบคุณสื่อมวลชนด้วยใจจริง ช่วยรัฐบาลนิดนึง ผมไม่ได้หมายความว่าท่านจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรผมไม่ได้ คงตามสมควร แต่อย่าสร้างความขัดแย้งเท่านั้นเอง”