“ประยุทธ์” ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ เดินหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ ควบคู่สิ่งแวดล้อม ยันดูแลทุกพรรคไม่ตัดงบ ขอแค่ไม่ทุจริต ลั่นเป็น รบ.ของ ปชช.
วันนี้ (12 ก.ย.) เวลา 15.34 น. ที่สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมราชการที่จังหวัดสมุทรปราการ ว่า วันนี้ได้มาพบปะสื่อมวลชนอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่ตรวจระบบการระบายน้ำระบบ ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรกหลังจากปี 2557 โดยก่อนหน้านี้ มีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งตนไม่โทษใคร วันนี้ต้องทำของใหม่ให้ดีขึ้น และได้เดินทางมาเยี่ยมคณะแพทย์ที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีการหารือกันถึงเรื่องสุขภาพ และการวิจัยพัฒนาเวชกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการผลิตแพทย์และพยาบาล หรือเป็นองค์กรขนาดใหญ่ถือเป็นองค์กรขนาดใหญ่มีผลงานเป็นที่ปรากฏ ทั้งนี้ ทางสถาบันดังกล่าวได้มีการเสนอโครงการต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้เป็นพื้นที่ที่สามารถรองรับรองรับ ทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้รักสุขภาพและผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในระยะยาวในการสร้างความมั่นคงในการสร้างความมั่นคง ปลอดภัยในเรื่องสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณที่สามารถลดจำนวนผู้ป่วย โควิด-19 ลงได้เรื่อยๆ และวันนี้เราจำเป็นต้องสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้มากินขึ้นพร้อมกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ ซึ่งเกิดตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ลดปัญหาพื้นที่ที่ไปสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ 2 หมื่นกว่าไร่ ซึ่งได้ดำเนินการมาหลายปี จนกระทั่งรัฐบาลปัจจุบัน และสถานีสูบน้ำดังกล่าวสามารถป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมได้มากพอสมควร ถือเป็นการบริหารจัดการน้ำของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) อย่างเป็นระบบ และน้ำจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และประเทศที่มีรายได้สูงก็มักจะมีปัญหาแบบนี้ ซึ่งตนได้เตือนในที่ประชุม ขอให้ระมัดระวังและมองอนาคตไว้ด้วย ถ้าวันข้างหน้าสถานการณ์ในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โลกร้อนน้ำแข็งละลายเราต้องร่วมมือกันไว้ในระยะยาวด้วย ซึ่งการประชุมระหว่างภูมิภาคหลายประเทศก็ร่วมมือกัน ฉะนั้น จะต้องวางแผนและจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยไม่ให้โลกร้อน
“วันนี้รัฐบาล ท้องถิ่น และผู้แทนฯ หารือร่วมกัน ผมยืนยันว่า ต้องดูแลคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของใครก็แล้วแต่ ผมมาให้ทุกพื้นที่ และวันหน้าผมจะปรับแผนงานการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากบรรดา ส.ส.ในการดูแลประชาชนของท่านโดยคำนึงถึงจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงด้วย รัฐบาลต้องทำหน้าที่แบบนี้ และวันนี้ก็รับฟังหลายช่องทางอยู่แล้ว ทั้งจากจังหวัดและในสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีการตอบกระทู้กัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องมีโครงการที่เป็นโครงสร้างใหญ่ด้วย ส่วนที่เล็กกว่านั้นก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะต้องบริหารในระดับพื้นที่ ผมยืนยันว่า ดูแลทุกพรรคการเมือง ท่านคือผู้แทนของประชาชน ผมเป็นรัฐบาลของประชาชน ฉะนั้น ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย สิ่งใดที่เสนอมาผมรับไว้และจะไปดูว่าจะทำได้แค่ไหน อย่างไรงบประมาณมีหรือไม่ ขอแค่ทุกอย่างทำอย่างสุจริตและโปร่งใส” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของงบประมาณที่ได้อนุมัติไปแล้ว น่าจะทำและเบิกได้ แต่บางครั้งติดปัญหาไม่สมบูรณ์ ซึ่งตนได้นำมาดูแลในขั้นต้นมากแต่พอทำก็ติดตรงนั้น ตรงนี้บ้าง ประท้วงกันบ้าง สิ่งเหล่านี้ต้องช่วยเรา รัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการเบิกจ่ายอยู่แล้ว แต่จะต้องทำโครงการมาให้สมบูรณ์และถูกต้องตามกฎระเบียบ ไม่ใช่ว่านายกฯ หรือสำนักงบประมาณอยากจะตัด มันไม่ใช่ซึ่งยังมีโครงการอีกเยอะ ดังนั้น ฝากไปถึงผู้ว่าฯและทุกกระทรวงด้วย ขอให้ดูแลงบประมาณที่นำเสนอมาโดยส.ส.ที่อยู่ในคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ต้องรับแผนงานของ ส.ส.มาพิจารณาด้วยในพื้นที่ ไม่ว่าจะของใครก็ตามให้ความเป็นธรรมในพื้นที่ให้ได้ เพราะจะเป็นคำตอบให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งตนน่าจะคิดไม่ผิด ยืนยันว่า โครงการไทยเข้มแข็งยังเดินหน้าต่อ แต่ต้องดูว่าติดขัดตรงไหนหรือไม่ ถือว่าเป็นโครงการระดับนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ก็จะต้องดูว่าได้ประโยชน์จริงหรือไม่ถ้าไม่ได้ก็ต้องยกเลิกแล้วทำใหม่ ทั้งของโครงการระดับนโยบายนี้ ทั้งโครงการไทยเข้มแข็ง โครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน