รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ กฎกระทรวง 3 ฉบับ คุ้มครองประชาชนให้ได้รับชดเชยเมื่อรัฐใช้ที่ดิน-สิ่งก่อสร้างแก้น้ำท่วม-ภัยแล้ง
วันนี้ (11 ก.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม ในการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างของประชาชน เพื่อก่อสร้าง วางสิ่งของ สูบน้ำ หรือระบายน้ำผ่านเข้าไปในที่ดินได้ โดยต้องกำหนดค่าทดแทนและค่าชดเชยความเสียหายดังกล่าวแก่ประชาชนด้วยนั้น
ล่าสุดวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ กฎกระทรวง 3 ฉบับ ให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองตามข้อกฎหมายดังกล่าว ประกอบด้วย 1) กฎกระทรวงค่าทดแทนและค่าชดเชยความเสียหาย จากการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม โดยสาระสำคัญของกฎหมายนี้ เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน กำหนดให้หน่วยงานรัฐ มีหน้าที่จ่ายค่าทดแทนและค่าชดเชยความเสียหาย แก่ผู้ครอบครองหรือเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลุกสร้าง ที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม โดยให้คำนึงถึงความเสียหายตามความเป็นจริงของสภาพของทรัพย์สินนั้น พิจารณาราคาที่ซื้อขายกันปกติในท้องตลาด หรือเทียบราคาที่อ้างอิงจากราคากลาง ที่ทางราชการกำหนด
2)กฎกระทรวง ค่าชดเชยความเสียหายจากการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม โดยคุ้มครองประชาชนกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม เนื่องจาก พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 ได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการทำลายสิ่งกีดขวาง ตัดฟันต้นไม้ ขุดดิน ปิดกั้นแนวเขตที่ดิน รื้อถอนสิ่งก่อสร้างซึ่งมิใช่เป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัยหรือดำเนินการอื่นใดเท่าที่จำเป็นแก่การป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมได้ โดยให้ชดเชยความเสียหายแก่ประชาชนเจ้าของที่กินและสิ่งปลูกสร้างตามเกณฑ์ที่กำหนด
3)กฎกระทรวง กำหนดค่าทดแทนให้แก่บุคคลซึ่งต้องเฉลี่ยน้ำที่กักเก็บไว้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่เขตภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรง โดย พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 ยังบัญญัติในกรณีที่เกิดภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงในพื้นที่ใด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้บุคคลซึ่งกักเก็บน้ำไว้ ต้องเฉลี่ยน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ โดยให้บุคคลดังกล่างมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากการที่ต้องสูญเสียน้ำที่กักเก็บไว้ โดยพิจารณาทั้ง ราคาต้นทุนของน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำ , สภาพและทำเลที่ตั้งของแหล่งกักเก็บน้ำ , ขนาดและลักษณะของความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียน้ำที่กักเก็บไว้ , ค่าขาดประโยชน์จากการไม่ได้ใช้น้ำเพื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือวิถีชีวิตประจำวัน
“กฎกระทรวงทั้ง 3 ฉบับ เพื่อคุ้มครองปกป้องสิทธิของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและน้ำท่วม ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนเริ่มของประชาชนในการช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี” น.ส.ไตรศุลี กล่าว