ปธ.โครงการทุก(ข์) ภัยไทยช่วยกัน ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน จัดหา-ส่งมอบอุปกรณ์การแพทย์ 100 โรงพยาบาลที่ขาดแคลน สู้ภัยโควิด ผ่าน สปสช. “หมออรรถพร” เผยเตรียมแจกชุดตรวจ ATK ให้ ปชช. เริ่ม 16 ก.ย. โชว์แอปเป๋าตัง รับคนละ 2 ชุด
วันนี้ (7 ก.ย.) น.ส.โกมล เมฆวัฒนา ประธานโครงการทุก(ข์) ภัย ไทยช่วยกัน พร้อมคณะ ได้ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ครั้งที่ 3 ให้กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยมี พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ และโฆษกกองทัพอากาศ นพ.ประจักษ์วิช เล็บนาค ประธานมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. และผู้แทนหน่วยงานตางๆ เข้าร่วม
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ช่วง 20 เดือนที่ผ่านมา ทั่วโลกเจอปรากฏการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นวงกว้าง ประเทศไทยก็เจอการระบาดครั้งที่ 4 สามเดือนที่ผ่านมาเราเห็นความทุกข์ยาก ไม่ว่าคนรวย คนจน โดนกันทั่วหน้า เราเห็นปรากฏการณ์ เตียงไม่พอ การระดมบุคลากรทางการแพทย์ แม้เราจะเอาแต่ก็ลำบากกันมา การสู้กับโควิด สปสช.เราสู้แบบไม่อั้น เพราะรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ เราพยายามคัดกรองโดยรอบแรกเปิดคัดกรอง 17 วัน มีผู้เข้าคัดกรอง 33,000 คน พบการติดเชื้อถึงร้อยละ 17 ซึ่งเจ้าหน้าที่ สปสช.เองก็กลัวติดเชื้อ แต่เพราะได้รับความช่วยเหลืออุปกรณ์ในการป้องกันจากโครงการทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน ทำให้ปลอดภัย รอบสอง เราเปิดคัดกรองอีก 4 วัน มีคนเข้ารับบริการ 3,300 คน ผลเป็นลดลงมาเหลือร้อยละ 6 แต่เราต้องไม่ประมาท ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย ไม่ไปในที่แออัด และมีสติ
นพ.อรรถพร ยังกล่าวด้วยว่า สปสช.จัดหาชุดตรวจโควิด ATK ไว้ 8.5 ล้านชิ้น โดยในพื้นที่สีแดงเข้มจะมีการแจกจ่ายไปยังชุมชน เช่น ตลาดนัด ตลาดสด ร้านขายยาที่ร่วมโครงการ ศูนย์บริการสาธารณสุข ส่วนต่างจังหวัดจะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยจะเริ่มแจกจ่ายให้กับประชาชนในวันที่ 16 ก.ย. คนละ 2 ชุด ซึ่งประชาชนที่มีแอปเป๋าตัง สามารถนำแอปเป่าตังไปแสดงเพื่อขอรับชุดตรวจได้เลย โดยการใช้ชุดตรวจ ATK ขอให้เว้นระยะตรวจนาน 5 วัน นับแต่ตรวจชุดแรก
“การสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์จากโครงการทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน และความช่วยเหลือจากทางกองทัพอากาศในการจัดส่งอุปกรณ์ไปยังพื้นที่ห่างไกล จะช่วยเติมเต็มทำให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เร็วและทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เราสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน”
ด้าน น.ส.โกมล เมฆวัฒนา ประธานโครงการทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มเมื่อเดือน มี.ค. 63 มีการกระจายความช่วยเหลือ ส่งมอบสิ่งของ บริจาคผ่าน สปสช.ครั้งแรกเดือน เม.ย. 63 ซึ่งสถานการณ์แพร่ระบาดในวันนั้นเราว่าหนักแล้วแต่ยังไม่เท่าวิกฤตที่คนไทยประสบในขณะนี้ จึงได้เริ่มโครงการเมื่อกลาง ก.ค. ที่ผ่านมา จับมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน เพื่อระดมทุน ในการภารกิจ “เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจ” จัดหาเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ที่สำคัญ เราได้เห็นพลังน้ำใจขอพี่น้องคนไทยหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ทำให้ประสบความสำเร็จในการระดมทุนอย่างเกิคดวามคาดหมาย สามารถจัดหาอุปกรณ์ที่จะส่งมอบ เป็นเครื่องให้ออกซิเจนอัตราไหลสูง หรือ Oxygen High Flow 27 เครื่อง อุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ (หรือ PAPR) 47 เครื่อง เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด10 ลิตร 10 เครื่อง ยาแก้ไอ ไอ-เฮิร์บ 1000 ขวด ชุดPPE กว่า 11,000 ชุด หน้ากากอนามัย N95 กว่า 58,000 ชิ้น ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่น ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ที่ขาดแคลนกว่า 100 โรงพยาบาลทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าการบริจาคทั้งสิ้น 13,674,800 บาท ซึ่งจะยังคงเปิดรับบริจาคจนถึงวันที่ 30 ก.ย. หรือจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะดีขึ้น
